กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--WorkLink
ECF เข้าเทรดเอ็มเอไอวันแรก 26 มี.ค. 55 กระแสตอบรับดี เผยแผนธุรกิจขยายตลาดในประเทศผ่านโมเดิร์นเทรดมากขึ้น พร้อมรุกตลาด มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า ลาว มั่นใจรายได้ปี 56 เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% APM ที่ปรึกษาทางการเงินระบุ ธุรกิจขยายตัวโดดเด่น พื้นฐานแน่น สร้างผลตอบแทนดีทั้งระยะกลาง-ยาว โนมูระคาดซื้อขายวันแรกคึกคัก
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่าย เฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา เปิดเผยว่า การเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกของหุ้น ECF ในวันนี้ (26 มี.ค. 56) จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเช่นเดียวกับช่วงเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เนื่องจากบริษัทมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ และมีการวางแผนพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต การดำเนินงานที่ชัดเจน
ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้รายได้รวมของบริษัทจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,080.10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 35.64 ล้านบาท โดยการเติบโตของรายได้ในปีนี้เป็นผลจากการขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศ ผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆมากขึ้น ขณะที่ตลาดต่างประเทศบริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าเดิมในประเทศญี่ปุ่น และตะวันออกกลาง อีกทั้งมีแผนจะขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มประเทศอาเซียนมากขึ้น อาทิ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ พม่า และลาว
“ในปีที่ผ่านมาผลการดำเนินงานมีการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งบริษัทจะพยายามสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การระดมทุนในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการที่บริษัทจะปรับปรุงสายการผลิตเพื่อผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยางพารา ให้เพียงพอต่อคำสั่งซื้อของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานด้านต่างๆให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระบบการบริหารจัดการ การลดต้นทุน การเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ฯลฯ ซึ่งเรามั่นใจว่าการดำเนินงานดังกล่าว จะนำมาสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทด้วยเช่นกัน”นายอารักษ์ กล่าว
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า ECF เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ดและไม้ยางพาราอันดับต้นๆของประเทศ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับจากตลาดในระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน และเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการแข่งขัน ขณะเดียวกันธุรกิจของบริษัทยังมีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมากในช่วงต่อจากนี้ จากแผนการดำเนินธุรกิจที่มุ่งขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศอย่างไม่หยุดนิ่ง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะผลักดันให้ ECF มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต และสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนได้ทั้งในระยะกลางและระยะยาวซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนที่จะเลือกลงทุนในหุ้นของ ECF
“การลงทุนในหุ้นของ ECF จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีของนักลงทุน เพราะธุรกิจของบริษัทมีการเติบโตในอนาคตที่ชัดเจน โดดเด่น ประกอบกับบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของฐานะการเงินและความเชี่ยวชาญในธุรกิจมากว่า 14 ปี เชื่อว่าหลังจากการะดมทุนแผนการดำเนินงานที่บริษัทวางไว้จะเป็นไปตามเป้าหมาย และนำมาสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างแน่นอน”นายสมภพ กล่าว
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า แม้ว่าการเสนอขายหุ้นไอพีโอของ ECF จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก และมีผู้ได้รับการจัดสรรไปกว่า 3,543 ราย แต่เชื่อว่ามีนักลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก ที่ให้ความสนใจลงทุนในหุ้นของบริษัท ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายในวันแรกไปจนถึงช่วงต่อจากนี้มีกระแสตอบรับที่ดี
เนื่องจาก ECF มีการเติบโตที่ดีมาโดยตลอด ควบคู่ไปกับการไม่หยุดนิ่งในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศขณะที่ราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอ ECFที่ราคา 1.20 บาท/หุ้น ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยมี P/E 17.51 เท่า คิดเป็นส่วนลดประมาณ 30% และบริษัทยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง