กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท ฮิตาชิ เอเชีย จำกัด ประกาศรายชื่อสุดยอด 4 เยาวชนที่จะเป็นตัวแทนจากประเทศไทย เข้าร่วมโครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ ครั้งที่ 12 หรือ 12th Hitachi Young Leaders Initiative (HYLI) โดยในครั้งนี้จะจัดขึ้น ณ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่าง 1-5 กรกฎาคม 2556 โดยเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการฯ ได้แก่ นางสาวสุภัชยา เตชะชูเชิด (ซ้ายสุด) มหาวิทยาลัยมหิดล, นางสาวเหมือนดาว สวนดี (ที่ 2 จากซ้าย) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายเติมพงศ์ อินต๊ะแก้ว (ขวาสุด) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายเอกลักษณ์ เศรษฐี (ที่ 2 จากขวา) มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ เยาวชนไทยทั้ง 4 คนดังกล่าว จะไปสมทบกับเพื่อนเยาวชนต่างชาติ จากประเทศญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ในวันงานประชุมสุดยอดผู้นำเยาวชนฮิตาชิ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกิตติมศักดิ์มากมายที่เดินทางจากทั่วภูมิภาคเอเชียที่ให้เกียรติมาบรรยายในงานประชุมดังกล่าวอีกด้วย
งานสัมภาษณ์และคัดเลือกนักศึกษารอบสุดท้ายได้รับเกียรติจาก ดร. วัลลภ สุวรรณดี (ที่ 4 จากซ้าย) อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เป็นประธานคัดเลือกนักศึกษารอบสุดท้าย พร้อมด้วยคุณเทพชัย หย่อง (ที่ 3 จากซ้าย) บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น, คุณทรงฤทธิ์ โพนเงิน (ที่ 3 จากขวา) ผู้สื่อข่าวอาวุโส หนังสือพิมพ์เนชั่นสุดสัปดาห์, มร. โยอิจิ ยามาโน (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้จัดการอาวุโส แผนกคอร์ปอเรท ซิตีเซ็นชิพ 2 หน่วยงาน ซีเอสอาร์ บริษัท ฮิตาชิ จำกัด และมิสเจียวันนา พาลาซโซโล (ที่ 4 จากขวา) ผู้อำนวยการอาวุโส เวเบอร์ แชนด์วิค ประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการคัดเลือกนักศึกษา
โครงการผู้นำเยาวชนฮิตาชิ หรือ HYLI ก่อตั้งโดยบริษัท ฮิตาชิ ลิมิเต็ด ตั้งแต่ปี 2539 โดยเป็นโครงการผู้นำความคิดระดับภูมิภาค และเป็นโครงการตอบแทนสังคม ที่ริเริ่มขึ้นเพื่อพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำทางความคิดให้กับเยาวชนชาวเอเชีย และเฟ้นหาผู้นำระดับหัวกะทิสำหรับอนาคตในหมู่นิสิตนักศึกษา ที่นอกจากจะมีความรู้ด้านวิชาการเป็นเลิศแล้ว ยังต้องมีความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือและพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้น ทางโครงการ HYLI จะเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วเอเชียได้มีโอกาสพบปะ เสนอแนะ แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นในประเด็นเด่นด้านเศรษฐกิจ และปัญหาโครงสร้างทางสังคม ร่วมกับบุคคลระดับผู้นำทางความคิดทั่วเอเชีย ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และในแวดวงนักวิชาการ