กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--สำนักงาน กสทช.
จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์อพยพชั่วคราวผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านแม่สุรินทร์ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่เป็นแหล่งพักพิงชาวกะเหรี่ยงกว่า 3,000 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 22 มีนาคม มีผู้เสียชีวิต มีทั้งหมด 36 ราย เป็นผู้ชาย 21 คน ผู้หญิง 15 คน บาดเจ็บสาหัส 13 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 96 ราย และบ้านเรือนเสียหายทั้งหมดกว่า 400 หลัง รวมทั้ง ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ยังถูกเพลิงไหม้เสียหายไปด้วย ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก ประกอบกับการเดินทางเข้าถึงพื้นที่ศูนย์อพยพฯ เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะอยู่ห่างไกลติดแนวชายแดนไทย-พม่า เมื่อไม่มีสัญญาณโทรศัพท์รวมถึงระยะทางจากศูนย์อพยพฯ ที่อยู่ห่างจากตัวอำเภอเมือง 80 กม. ต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2.30 ชั่วโมง เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขา คดเคี้ยวและต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ โฟว์วีล เท่านั้น จึงเป็นอุปสรรคสำคัญในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่พื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีเพียงวิธีการสื่อสารผ่านวิทยุของทหารเป็นหลักเท่านั้น
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้ประสานไปยังนางนฤมล ปาลวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนซึ่งช่วยเหลือประชาชนอยู่ในพื้นที่ ทราบว่าพื้นที่ประสบภัยกำลังมีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารเนื่องจากขณะนี้มีเจ้าหน้าที่จำนวนมากได้เข้าไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประภัย อีกทั้งสื่อมวลชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศทำข่าวอยู่ในพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงสภาพพื้นที่เข้าถึงได้ยาก หากสามารถติดต่อสื่อสารได้สะดวกขึ้น จะทำให้ความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ได้มากขึ้น สำนักงานฯ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้จัดส่งรถสื่อสัญญาณเข้าไปให้บริการในพื้นที่ แต่เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุเป็นจุดอับสัญญาณ เบื้องต้นจำเป็นต้องใช้ระบบสื่อสัญญาณดาวเทียม โดยได้ประสานให้บริษัท ไทยคม จำกัด นำรถสื่อสัญญาณไปให้บริการโทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือระบบ VOIP พร้อมทั้งให้บริการอินเทอร์เน็ต และWiFi ในพื้นที่ ซึ่งหากไม่มีข้อขัดข้องใดๆก็พร้อมจะให้บริการได้ในวันนี้ (26 มีนาคม 2556)
พร้อมกันนี้จากการประสานงานทราบว่าบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ก็ได้ส่งรถสื่อสัญญาณเดินทางไปแล้ว แต่ไม่สามารถเข้าไปยังพื้นที่ที่ประสบภัยได้จึงได้จอดรอในจุดที่ใกล้ที่สุด และจะนำอุปกรณ์เคลื่อนที่ผ่านสัญญาณผ่านดาวเทียมไปให้บริการแทน ซึ่งจะสามารถใช้งานได้ในวันพรุ่งนี้ (27 มีนาคม 2556) โดยจะมีเครื่องโทรศัพท์โทรฟรีไปให้บริการด้วย ในส่วนของผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็กำลังทยอยส่งความช่วยเหลือตามเข้าไป
นายฐากร กล่าวว่า นอกจากการประสานความร่วมไปยังผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกรายให้จัดส่งรถสื่อสัญญาณเข้าไปให้บริการในพื้นที่แล้ว สำนักงาน กสทช. ยังได้เปิด “ศูนย์สื่อสาร กสทช. เพื่อผู้ประสบภัย” เพื่อเป็นส่วนกลางอำนวยความสะดวกด้านการสื่อสารให้กับประชาชนในพื้นที่ศูนย์อพยพโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.อ.ต. ดร. ธนพัทธุ์ หร่ายเจริญ รองเลขาธิการ กสทช. ภารกิจภูมิภาคและบูรณาการ และทีมงานเจ้าหน้าที่ลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือ
สำนักงาน กสทช. ตระหนักถึงความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารในภาวะภัยพิบัติเช่นนี้ ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลด้านการสื่อสารของประเทศไทย สำนักงานฯ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มกำลังความสามารถ