กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--KTAM
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์ (KT-WCORP) ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 2 เมษายน 2556 โดยกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์ (KT-WCORP) เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมหลัก BGF Global Corporate Bond Fund ซึ่งบริหารจัดการโดย BlackRock (Luxembourg) S.A.โดยปัจจุบันบริษัทจัดการลงทุน “BlackRock” มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการสูงถึง 3.792 ล้านล้านเหรียญฯ (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555) โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ในการบริหารเงินลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนส่วนเพิ่มได้อย่างสม่ำเสมอในระยะยาวมากกว่าการเก็งกำไรโดยเพิ่มหรือลดอายุเฉลี่ยของกองทุน
นายสมชัย กล่าวว่า ความน่าสนใจของกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์ คือ เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพทั่วโลก โดยกองทุนรวมหลักจะเน้นลงทุนในตราสารคุณภาพดีและมีการกระจายการลงทุนทั่วโลก มีการจัดสัดส่วนการลงทุนเชิงกลยุทธ์ทั้งตราสารหนี้ในตลาด High Yield และตลาดเกิดใหม่ ซึ่งการกระจายการลงทุนในปัจจุบันจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้เอกชนระดับ Investment Grade ทั่วโลกเป็นหลักและมีนโยบายลงทุนเฉพาะสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงเท่านั้น นอกจากนี้การบริหารจัดการกองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์ ผู้จัดการกองทุนยังอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินบาท
ด้าน นางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ในฐานะตัวแทนสนับสนุนการขายกล่าวเสริมว่า กองทุนตราสารหนี้เป็นกองทุน ที่เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุน โดยกองทุนเปิด เคแทม เวิลด์ คอปเปอร์เรท บอนด์ ฟันด์เป็นการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพระดับที่น่าลงทุน มีมูลค่าประเมินทางพื้นฐานที่ดี และมีการกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก เหมาะกับการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง ทำให้ความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตการลงทุนลดลงและให้ผลตอบแทนที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับความเสี่ยง จึงนับเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุน ที่อาจสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้
อย่างไรก็ดี นักลงทุนจะต้องมีวินัยในการสร้างพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนและปรับให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายและสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป นางวีระอนงค์กล่าวสรุป