กรุงเทพฯ--27 มี.ค.--แพรนด้า จิวเวลรี่
รายงานข่าวจาก บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ PRANDA เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2556 ว่า ทางบริษัท ยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าแบรนด์ของตนเอง หรือ OBM (Original Brand Manufacturing) ด้วยกลยุทธ์การพัฒนาฐานการค้าปลีกแบรนด์ของบริษัท (Own Retail Base) ตลาดกลุ่มประเทศประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในประเทศที่มีอัตราเติบโต และขนาดของเศรษฐกิจ ที่ใหญ่ อันได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องประดับแบรนด์ Julia, Prima Gold, Lovelinks และประเทศเวียดนาม ด้วยสินค้าเครื่องประดับแบรนด์ Prima Gold ซึ่งจากเดิมมีจำนวน 150 จุดจำหน่าย เพิ่มขึ้นเป็น 250 จุดจำหน่ายภายในปี 2558 ทั้งนี้จะสามารถเพิ่มยอดขายในกลุ่ม AEC ระยะ 3 ปี จาก 2556 — 2558 ประมาณ 65%
ส่วนในกลุ่มประเทศยุโรป ถึงแม้ระยะที่ผ่านมาจะมีสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวก็ตาม แต่สำหรับ PRANDA ซึ่งจำหน่ายสินค้าในระดับราคาปานกลางด้วยงานฝีมือประณีตคุณภาพสูงในลักษณะ “Mass Craftsmanship” ไปยังกลุ่มเป้าหมายในระดับชนชั้นกลาง ที่มีขนาดของตลาดใหญ่ จึงยังคงรักษาระดับยอดขายไว้ได้อย่างน่าพอใจ ดังนั้นในปี 2556 ทางบริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่า สินค้าเครื่องประดับแบรนด์จะยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายการจัดจำหน่ายสินค้า OBM ผ่านการค้าส่งให้แก่ร้านค้าปลีกรายย่อย (Independent Retailer) และร้านค้าปลีกเครือข่าย (Chain Store) ด้วยการใช้เครื่องประดับแบรนด์ Cai และ Merii เป็นตัวหลักในการทำตลาด ทั้งนี้ทางบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของสินค้า OBM จากในตลาดกลุ่มประเทศยุโรปเพิ่มขึ้นกว่า 100% ในระยะ 3 ปีนี้ นอกจากนี้ยังสามารถต่อยอดการจัดจำหน่ายจากยุโรป ขยายไปยังตะวันออกกลาง และเอเซีย ได้อีกด้วย
สำหรับสินค้ากลุ่ม ODM (Original Design Manufacturing) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องประดับที่ออกแบบและพัฒนาร่วมกับลูกค้านั้น จะเน้นการเปิดตลาดใหม่อย่างต่อเนื่องและรักษาฐานลูกค้าเดิม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอเมริกา และยุโรป ทั้งนี้เพราะลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำในระดับโลก มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ฐานะการเงินมั่นคง และสามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างสม่ำเสมอให้กับกิจการ ส่วนตลาดใหม่ที่สำคัญในขณะนี้ได้แก่กลุ่มประเทศรัสเซีย โดยกลุ่มสินค้า ODM นี้มีเป้าหมายการเติบโต ประมาณ 3-5% ต่อปี
ด้วยประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจจิวเวลรี่เกือบ 4 ทศวรรษ กลุ่มบริษัทได้วางกลยุทธ์ทั้งทางด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน ร่วมกับการบริหารความเสี่ยงทั้งทางด้านการตลาดและการเงินมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กลุ่มบริษัทยังมีรายได้จากการขายสำหรับปี 2555 จำนวน 4,176.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 54.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.3 % ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ปรับเพิ่มขึ้น 40 basis points อยู่ที่ระดับ 33.9% และจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างเข้มงวดทำให้ค่าใช้จ่ายฯ ลดลงจำนวน 25.1 ล้านบาท หรือลดลง 2.6% จากปีก่อน ดังนั้นจึงเป็นผลให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 63.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.5 % และมีกำไรสุทธิถึง 449.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นการลดลงเพียง 1.5 % เมื่อเทียบกับปี 2554
ติดต่อ:
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บมจ.แพรนด้า จิวเวลรี่
โทร 02-361-3311 ต่อ 131 - 133