กรุงเทพฯ--24 ธ.ค.--กบข.
กบข.ร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิด โครงการ บ้าน ธอส.- กบข. เพื่อที่อยู่อาศัยข้าราชการ โดยโครงการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ข้าราชการ และสมาชิก กบข. สามารถขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ทั้งกู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมบ้าน เพื่อปลูกสร้างบ้าน และเพื่อต่อเติมซ่อมแซมบ้าน หรือไถ่ถอนจำนอง (Refinance) จากสถาบันการเงินอื่นได้ ที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2548 และจะต้องทำนิติกรรมให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 โดยได้รับอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคาร ณ วันที่ผู้กู้ทำนิติกรรม หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง MRR ลบร้อยละ 2.25 ต่อปี ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีแรก หากต่ำกว่าให้ใช้อัตราดอกบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีแรกแทน
ทั้งนี้ ท่านสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทุกสาขาทั่วประเทศหรือ ธอส.สำนักงานใหญ่ หมายเลข 0 2645 9000 หรือ ศูนย์บริการข้อมูลสมาชิก กบข. โทร.1179 กด 6 และ member@gpf.or.th โดยสมาชิกสามารถศึกษารายละเอียดได้ ดังนี้
1.คุณสมบัติของผู้กู้
เป็นข้าราชการที่ยังรับราชการอยู่ ที่เป็นสมาชิก กบข. หรือไม่เป็นสมาชิก กบข. แต่อยู่ภายในสังกัดเดียวกันกับสมาชิก กบข.
2.วัตถุประสงค์การขอกู้
เป็นการขอสินเชื่อใหม่ ตามวัตถุประสงค์ดังนี้
2.1 เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ โดยจะเป็นการซื้อจากผู้ประกอบการหรือเป็นบ้านมือสองก็ได้
2.2 เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
2.3 เพื่อต่อเติม หรือขยาย หรือซ่อมแซมอาคาร ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง
2.4 เพื่อซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ (NPA) ของ ธอส.
2.5 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองและ/หรือคู่สมรส (จดทะเบียน)จากสถาบันการเงินอื่น
2.6 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองและ/หรือคู่สมรส (จดทะเบียน) จากสถาบัน การเงินอื่น และปลูกสร้าง หรือต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร
2.7 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่า ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองและ/หรือคู่สมรส (จดทะเบียน) จากสถาบันการเงินอื่น พร้อมปลูกสร้างอาคาร
โดยกรณีขอกู้เพื่อไถ่ถอนจำนองผู้กู้ต้องมีประวัติเป็นลูกหนี้ที่ดีกับสถาบันการเงินเดิม และกรณีเป็นลูกหนี้เดิมของธนาคารไม่ให้ใช้สิทธิโครงการนี้ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในบัญชีเงินกู้ที่มีอยู่กับธนาคารแล้ว
3.วงเงินให้กู้
3.1ไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาประเมินราคาที่ดินพร้อมอาคารหรืออาคารหรือห้องชุด ตามวัตถุประสงค์การขอ กู้เงินแต่ละประเภท และไม่เกินร้อยละ 100 ของราคาซื้อขายหรือราคาค่าก่อสร้าง แล้วแต่ว่าราคาใดต่ำกว่า
3.2 ไม่เกิน 65 เท่าของเงินเดือน เงินผ่อนชำระเป็นอัตราคงที่ตามสัญญากู้ โดยเงินงวดไม่เกินร้อยละ 50 ของเงินเดือนสุทธิ หรือไม่เกินร้อยละ 80 ของเงินเดือนสุทธิ กรณีมีผู้กู้ร่วมเป็นคู่สมรสจดทะเบียนและมีรายได้ มั่นคง (ประกอบอาชีพ รับราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือ บริษัทเอกชน ที่มีหลักฐานการรับเงินเดือนเพียงพอใช้จ่ายในการครองชีพได้)
3.3 ไม่เกินวงเงินจำนองที่มีอยู่กับสถาบันการเงินเดิม ยกเว้นกรณีขอกู้ไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่าพร้อมปลูกสร้างอาคาร วงเงินกู้เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินเปล่า ต้องไม่เกินยอดเงินต้นคงเหลือเท่านั้น ส่วนที่เกินเป็น ค่าปลูกสร้างอาคารตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร
4. ระยะเวลาการกู้
ไม่เกิน 30 ปี และอายุผู้กู้ (ผู้มีคุณสมบัติตามโครงการ) รวมกับจำนวนปีที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 65 ปี หรือจนเกษียณ อายุราชการ แล้วแต่ระยะเวลาใดยาวกว่า
5. หลักประกันในการขอกู้เงิน
เป็นโฉนดที่ดินหรือน.ส.3ก. หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด
6. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้
คิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ตามประกาศธนาคาร หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเท่ากับอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง MRR ลบร้อยละ 2.25 ต่อปี ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีแรก หากต่ำกว่าให้ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่เฉลี่ย 3 ปีแรกแทน
7. การคำนวณเงินงวด
ปีที่ 1 - 3 เงินงวดผ่อนชำระเท่ากันทุกปี คำนวณโดยใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ของปีที่ 3 หลังจากนั้นคำนวณโดยใช้อัตราดอกเบี้ยตามข้อ 6. บวกร้อยละ 1.00 ต่อปี
8. การชำระหนี้เงินกู้
8.1 หน่วยงานต้นสังกัดของผู้กู้ต้องทำข้อตกลงกับธนาคาร และทำหน้าที่หักเงินเดือนของผู้กู้นำส่งชำระหนี้ให้ธนาคาร
8.2 ในช่วงระยะเวลา 3 ปีแรกที่ใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ ผู้กู้สามารถผ่อนชำระเกินเงินงวดที่ระบุในสัญญากู้เงินได้
8.3 กรณีชำระหนี้ปิดบัญชีก่อน 3 ปีนับจากวันทำสัญญาจำนองครั้งแรก ธนาคารจะคิดค่าเบี้ยปรับร้อยละ 2 ของ วงเงินกู้ตามสัญญา
9. การพิจารณาให้กู้เงินและเงื่อนไขอื่น ๆ รวมถึงกรณีผิดนัดชำระหนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในการ ให้กู้เงินโครงการ ธอส.-กบข. และระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อของธนาคาร
10. การได้รับสิทธิต่อ
ผู้กู้ที่พ้นจากราชการตามนโยบาย/มาตรการของรัฐบาล ยังคงสิทธิอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตามโครงการได้ โดยผ่อนชำระหนี้ให้ธนาคารจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น
11. การหมดสิทธิการกู้เงินตามโครงการ
ธนาคารจะยกเลิกการใช้สิทธิ และเปลี่ยนดอกเบี้ยเงินกู้เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลอยตัวสำหรับลูกค้าทั่วไปของธนาคาร ในกรณีดังนี้
11.1 กรณีมีงวดค้างตามเกณฑ์ ธปท. ตั้งแต่ 3.00 งวดขึ้นไป (ซึ่งเป็น NPL)
11.2 กรณีพ้นสภาพการเป็นข้าราชการ (ยกเว้นข้อ 10.) ให้หมดสิทธิตั้งแต่วันที่พ้นสภาพการเป็นข้าราชการ
11.3 กรณีผู้ได้รับสิทธิต่อตามข้อ 10. มีงวดค้างตั้งแต่ 2.00 งวดขึ้นไป
12. กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน
ติดต่อยื่นคำขอกู้เงินได้ตั้งแต่วันที่ 24 ธันวาคม 2547 จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2548
13. ระยะเวลาสิ้นสุดในการทำนิติกรรม
ผู้ที่ยื่นคำขอกู้เงินภายในกำหนดตามข้อ 11. จะต้องทำนิติกรรมกับธนาคารให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 มิฉะนั้น จะถือว่าสละสิทธิในการกู้เงินตามโครงการ
14. สถานที่ติดต่อยื่นคำขอกู้เงิน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำนักงานใหญ่ ฝ่ายสินเชื่อบุคคล อาคาร 2 ชั้น 2 หรือสำนักงานสาขากรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือสำนักงานสาขาภูมิภาคทุกแห่ง
15. หลักฐานการขอกู้เงิน
15.1 หนังสือรับรองเงินเดือนจากต้นสังกัด (ตามแบบฟอร์มของธนาคาร) พร้อมสลิปเงินเดือนหรือใบแจ้งรายการเงินเดือนจากหน่วยงาน และหลักฐานแสดงฐานะทางการเงินอื่น ๆ
15.2 สำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการ หรือบัตรประจำตัวประชาชน
15.3 สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า
15.4 สำเนาทะเบียนสมรส/หย่า/มรณะบัตร แล้วแต่กรณี
15.5 สำเนาโฉนดที่ดิน หรือน.ส.3ก. หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า
15.6 กรณีซื้อห้องชุด ที่ดินพร้อมอาคาร ที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร ให้แสดงสำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย หรือสัญญามัดจำ
15.7 กรณีปลูกสร้าง/ต่อเติม/ขยาย/ซ่อมแซมอาคาร ให้แสดงสำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/คำขออนุญาต/แบบก่อสร้างอาคาร/ส่วนขยาย/ต่อเติมอาคาร/ซ่อมแซมอาคาร
15.8 กรณีไถ่ถอนจำนอง ให้แสดงสำเนาสัญญากู้ สัญญาจำนอง Statement/ใบเสร็จการผ่อนชำระย้อนหลัง 12 เดือน และหลักฐานแสดงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดินที่นำมาเป็นหลักประกัน ได้แก่ สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน (ฉบับสำนักงานที่ดิน) หรือใบแจ้งเลขหมายประจำบ้าน หรือใบอนุญาต ก่อสร้างอาคาร--จบ--