กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--กุศมัย กรุ๊ป
บทความพิเศษ กูรูตลาด นีช ตัวจริง ! (ภาค 2)AEC ในทัศนะ ดร.วิโรจน์ (วิลเลี่ยม วู) กูรูตลาด นีช
เมื่อฉบับที่แล้ว ผมได้แนะนำแนวทางการทำการตลาดนีช เพื่อหนีคู่แข่งใน AEC แล้วในตอนนี้ลองมาดูธุรกิจ SME ที่เราทำกันอยู่นะครับ ส่วนธุรกิจยักษ์ใหญ่ หรือ ธุรกิจขนาดกลางที่ทำตลาดแม๊ส คงไม่ต้องเป็นห่วงสักเท่าไหร่ หรืออาจทำเลยพวกเราไปมากแล้ว เพราะสายป่านยาว และคงไม่สนใจวิธีที่ผมจะแนะนำสักเท่าไหร่ เพราะอาจเป็นวิธีโบราณ และ พื้นๆไปก็ได้ เปรียบเสมือนการรักษาโรคด้วยสมุนไพรไทย แต่ที่สำคัญมันใช้ทุนน้อย และ ได้ผลชะงักดีนะครับ
วิธีแรกครับ คือ วิธีตั้งรับ แบบ ซุนวู คือ 1. ตีหญ้าให้งูตื่น คือ ประชาสัมพันธ์ตนเอง ให้เป็น Ambassador Brand ไม่ต้องไม่จ้างดาราคนไหน ทำคล้ายๆกับ คุณตัน (อิชิตัน) แต่ไม่ใช่ HOUSELIAN นะครับ ต้องให้ได้ประโยชน์ด้านภาพพจน์, ชื่อเสียง, การรับรู้, การยอมรับ และ ที่สำคัญที่สุดมีประโยชน์ในด้านการตลาด และ การขายด้วยครับ ถึงจะเรียกว่า ตีหญ้าได้ถูกที่ 2.ประชาสัมพันธ์บริษัท ให้มีภาพพจน์ที่ดี ลงในเว็บไซต์ให้มากในทุกช่องทาง 3.ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และโฆษณาสินค้า ในสื่อต่างๆ ที่จำเป็น ประหยัดและ ถึงกลุ่มเป้าหมาย แต่ควรระวังว่า อย่าใช้เกินตัว หรือ เหวี่ยงแห หรือ ยิงปืนกล ให้ใช้ หนังสติ๊กยิงให้ถูกนก ก็ใช้ได้แล้วครับ....รวมฝรั่งเรียกว่า กลยุทธ์เชิงรับ หรือ BELOW THE LINE ก็ได้ครับ แม้ว่าจะมีโฆษณาด้วยแต่เป็นตัวเสริมครับ ถ้าเป็นกลยุทธ์ซุนวู แล้วเราทำต่อเนื่อง ทำแล้วสื่อสนใจ ได้ภาพที่ใหญ่ เราเรียกว่า กลยุทธ์ “ปิดฟ้าข้ามทะเล” เหมือนที่ พรรคไทยรักไทย และ เพื่อไทย ทำ แต่ ที่ SME ต้องเน้นคือ สื่อ ONLINE …ทำ HOMEPAGE , SEO, SOCIAL NETWORK , FACEBOOK , INSTRAGRAM มากกว่า สื่ออื่นๆ เพราะ ประหยัด, ได้ผล, รวดเร็ว และ ไปได้กว้างครับ
วิธีที่สอง คือ วิธีก้าวรุก แบบ ซุนวู คือ บุกไปใน AEC เลย อันนี้ก็มี หลายวิธีครับ แต่ ตลาดภายในประเทศต้องทำให้มั่นคง และ เสถียรก่อน แล้วต้องทำ การประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย ตามวิธีแรก ใน AEC 10 ประเทศ ผมแนะนำให้ ทดลองทำที่ประเทศลาวก่อนครับ เหตุผลง่ายๆ ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องทำ MARKETING RESEARCH เหตุผลข้อแรกคือ ประเทศลาว ดูทีวีไทย ทุกช่อง แล้วพูดสื่อสารภาษาไทยได้ดี คนไทยก็ฟังภาษาลาวออกเกือบ 80-90% ภาษาเขาน่ารัก ประเทศติดกัน นั่งเครื่องบินก็ชั่วโมงเดียว ถ้านั่งสายการบิน ลาวแอร์ ก็พอๆกับไปอุดรครับ มีอะไรคุยกันรู้เรื่อง ถ้าไปทาง ชายแดน ก็ไปได้หลายทาง พาสปอร์ต ก็ไม่ต้อง ใช้บัตรประชาชนก็ข้ามไปได้แล้ว หลายวัน ถ้าอยู่ยาวหน่อย ก็ใช้ พาสปอร์ตทำวีซ่า จะเปิดร้าน ค่าเช่าก็ไม่แพง , ค่าแรงก็ถูก, ค่าครองชีพก็ถูก, คู่แข่งก็น้อย, อากาศก็ดี, เรื่องการเงินการธนาคารก็ไม่มีปัญหา มีธนาคารพงสะหวัน เปิดสาขาในไทยแล้วครับ ปรึกษาเขาได้ เพียงแต่ประชากร 4-5 ล้านเองครับ คนไทยไปเปิดกันเยอะแล้วครับ เช่น คลีนิกวุฒิศักดิ์ , ร้านอาหาร สุกี้ MK, โรงเรียนอาชีวะ เป็นต้น เรื่องโรงงานคนไทยก็ไปลงทุนเยอะครับ เช่น ปลูกกาแฟของเสี่ยเจริญ, ทำโรงงานน้ำตาลของมิตรผล หรือ เปิดร้านค้าต่างๆริมถนน เช่น ทำลิซซิ่งมอเตอร์ไซต์, สปา , ขายเสื้อผ้า เป็นต้น ทางกุศมัย กรุ๊ป เองก็มีแผนงานบุกไปลาวในปีหน้าเช่นกัน เพื่อไปเปิดบริษัทขายรถ 3 ล้อ ซูโมต้า, ร้านขายเครื่องครัวญี่ปุ่น และ ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เวียงจันทน์ จึงค่อยขยับขยายไปเมืองอื่นๆ หรือประเทศอื่นๆ อย่างเมียนม่าร์ก็น่าสนใจครับ แต่ติดเรื่องภาษา และ การธนาคารยังไม่ชัวร์, ส่วนกัมพูชา ก็ยังน่ากลัวอยู่ วันดีคืนดี อาจจะถูกเผาได้ เวียดนาม คนก็เก่ง ขยัน ภาษาดีมาก ตอนสงครามเวียดนาม ก็ปราบอเมริกันมาแล้ว คนไทยเขาเรียก “เสี่ยมหล่อตือ” หมายถึง หมูไทย แต่เวียดนามเรียกตัวเองว่า “เหล่าโฮ่ว” หมายถึง เสือโคร่ง ก็กลัวอยู่เหมือนกันครับ ว่า หมูไทยจะถูกเสือกิน ส่วน สิงคโปร์ ก็เก่งสุดๆที่หนึ่งในอาเซียนอยู่แล้วครับ SME เราคงเป็นมวยรอง แล้วรัฐบาลเขาก็ปกป้องและ ส่งเสริมธุรกิจคนสิงคโปร์สุดๆครับ อินโด-มาเลเซีย เขาค่อนข้างเหยียดผิว ไม่ชอบคนจีนครับ ถ้าคนไทยเชื้อสายจีน ไปลงทุน ก็ระวังหน่อยครับ , ฟิลิปินส์ นับถือคริสต์ เป็นส่วนใหญ่ ภาษาอังกฤษเยี่ยมมากครับ นักร้องก็ร้องเพลงเพราะมากครับ ส่วนใหญ่จะมาหากินกับ โรงแรม 5 ดาวในอาเซียนคือวนกันไปประเทศละ 3 —6 เดือน ถ้าจะบุกไปทำตลาดจริงก็ต้องมีคนพื้นที่ครับ บรูไน แม้ว่าจะเป็นประเทศที่นับถืออิสลาม แต่เป็น อิสลามผู้ดีครับ รวยครับ มีน้ำมันเยอะ ไม่รังเกียจคนจีนครับ และ ชอบคนไทยด้วยครับ ทรัพยากรก็เยอะ แต่เสียอย่างเดียวประชากรน้อยมากครับ แค่หลัก 1-2 ล้านคนเองครับ ถ้าอยากได้ข้อมูลเชิงลึก ลองปรึกษาสภาพัฒน์ สภาอุตสาหกรรม หอการค้า หรือ ท่านทูตพาณิชย์ได้เลยครับ
ฉบับหน้า ( ภาค 3 ) ขอวิเคราะห์การมองโอกาสจาก AEC ภายใต้แผนงานของผู้บริหารประเทศไทยเพื่อให้ SME สามารถปรับกลยุทธ์ให้พร้อม เพื่อประโยชน์สูงสุด.....
เจ้าของกิจการท่านใดสนใจต้องการปรึกษาธุรกิจ สามารถติดต่อ ดร.วิโรจน์ กุศลโนมัย ได้ โดยตรงที่ โทรศัพท์ 085-48885-427 หรือ E-mail: info@kusamai.com http://www.kusamai.com
สอบถามข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท กุศมัย กรุ๊ป จำกัด
โทรศัพท์ 02 416 5700