กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุมคณะมนตรีถาวรขององค์กรสำรองข้าวฉุกเฉินของอาเซียนบวกสาม (ASEAN Plus Three Emergency Rice Reserve: APTERR) อย่างเป็นทางการครั้งแรก ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัล ลาดพร้าว ว่า การประชุมคณะมนตรีถาวร APTERR ประกอบด้วยตัวแทนจาก 13 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศอาเซียน 10 ประเทศและประเทศ บวกสาม ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) และหน่วยงานด้านความมั่นคงทางอาหารในอาเซียนเข้าร่วมประชุม จะร่วมกับพิจารณาและให้การรับรองร่างกฎระเบียบและคู่มือการดำเนินงานต่างๆ ของ APTERR โดยเฉพาะคู่มือการระบายและเต็มเติมข้าวสำรองฉุกเฉิน เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ต้องการเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค
ที่ผ่านมาประเทศไทย โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานของ APTERR เป็นเวลานับสิบปีตั้งแต่ที่เป็นโครงการนำร่องเพื่อระบบการสำรองข้าวในเอเชียตะวันตะวันออก (The Pilot Project on East Asia Emergency Rice Reserve: EAERR) และล่าสุดที่ประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านการเกษตรและป่าไม้กับรัฐมนตรีของสาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี (AMAF+3) ครั้งที่ 12 ที่ประเทศลาว ได้มีมติให้จัดตั้งสำนักเลขานุการ APTERR ที่ประเทศไทยตามกฎหมายไทยและตั้งอยู่ที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มีนาคมนี้ ซึ่งสำนักเลขานุการแห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก APTERR ทั้ง 13 ประเทศ ในการบริหารจัดการข้าวสำรองฉุกเฉินของภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันมีการสำรองข้าวทั้งสิ้น 787,000 ตัน โดยประเทศสมาชิกจะมีการสำรองข้าวแตกต่างกันตามสภาพเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน รวมถึงให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวต่อไป
สำหรับความคืบหน้าแนวทางการรับรองสถานะของสำนักเลขานุการ APTERR นั้น กระทรวงเกษตรฯ อยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาให้มีการออกกฎหมายต่อไป