บีโอไอหนุนอุตสาหกรรมเหล็ก ให้สิทธิประโยชน์สูงสุดทุกเขต — เลิกคุมวงเงินยกเว้นภาษี

ข่าวทั่วไป Tuesday December 28, 2004 10:31 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ธ.ค.--บีโอไอ
บอร์ดบีโอไอไฟเขียวมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้น ที่ผลิตต่อเนื่อง ถึงขั้นกลาง หวังเพิ่มความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมเหล็ก ลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กขั้นกลาง ลดความผันผวนของราคาเหล็กขั้นกลาง โดยให้แก้ไขประเภทกิจการผลิตเหล็กเพื่อสอดรับกับโครงสร้างการผลิตของอุตสาหกรรมเหล็ก พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปีทุกเขตที่ตั้ง และไม่จำกัดวงเงินยกเว้นภาษี
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่มี พล.อ. ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้น และขั้นกลางในประเทศมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น และเป็นการลดการนำเข้าผลิตภัณฑ์เหล็กขั้นกลางที่จะใช้ในการผลิตเหล็กขั้นปลาย ที่ประชุมจึงเห็นชอบนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้น โดยกำหนดให้โครงการผลิตเหล็กขั้นต้น รวมทั้งขั้นตอนการผลิตเหล็กขั้นกลางซึ่งต่อเนื่องกันเป็นโครงการเดียวกัน ให้เป็นกิจการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษ ให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ไม่ว่าจะตั้งในเขตใด และไม่กำหนดสัดส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ เนื่องจากอุตสาหกรรมเหล็กขั้นต้นเป็นกิจการที่มีขนาดการลงทุนสูงมาก ที่ประชุมจึงเห็นควรให้กำหนดสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (Dept Equity Ratio) ไม่เกิน 2:1
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้แก้ไขประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมให้สอดคล้องกับกระบวนการผลิตเหล็ก จากเดิมที่ให้ส่งเสริมกิจการผลิตเหล็กทรงแบน (ประเภท 2.9) กิจการผลิตเหล็กทรงยาว (ประเภท 2.10) มาเป็น กิจการผลิตเหล็กขั้นต้นและขั้นกลาง (ประเภท 2.9) และกิจการผลิตเหล็กขั้นปลาย (ประเภท 2.10)
“ ขณะนี้มีนักลงทุนแสดงความสนใจลงทุนผลิตเหล็กขั้นต้นด้วยกระบวนการถลุงที่ใช้เตาพ่นลม แล้วจะผลิตต่อเป็นเหล็กขั้นกลางและปลาย ซึ่งนอกจากจะช่วยลดต้นทุนและความเสี่ยงจากราคาเหล็กขั้นกลางที่มีความผันผวนมากแล้ว ยังช่วยลดการนำเข้าเศษเหล็กที่จะนำมาใช้ผลิตเหล็กขั้นกลาง และที่สำคัญ จะช่วยให้เหล็กขั้นปลายของไทยมีคุณภาพตรงตามความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง และบรรจุภัณฑ์ มากยิ่งขึ้น เพราะเหล็กที่มีความบริสุทธิ์สูงที่จะได้จากเหล็กถลุงเท่านั้น แต่การผลิตที่มีอยู่ในประเทศเป็นการหลอมเศษเหล็กเป็นหลัก “ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ