กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--หอการค้าไทย
หอการค้าไทยจัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 47 พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง โดยนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทย คนที่ 23 ตามความคาดหมาย พร้อมประกาศวิสัยทัศน์และพันธกิจเพื่อขับเคลื่อนองค์กร และพัฒนาผู้ประกอบการไทยให้สามารถแข่งขันได้บนเวทีการค้าโลก
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ในวันนี้ (28 มี.ค.)หอการค้าไทยได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 47 ขึ้น ณ โรงแรมเดอะสุโกศล เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น ในปีนี้ยังได้จัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่
แทนคณะกรรมการชุดเดิมที่หมดวาระลง ซึ่งสมาชิกหอการค้าไทยได้ลงคะแนนเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ มีผู้แทนทั้งหมด 76 คน โดยที่ประชุมได้มีมติเป็นเอกฉันท์เลือกนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ กลุ่มมิตรผล ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการหอการค้าไทย คนที่ 23 พร้อมทั้งแต่งตั้งให้นายกลินท์ สารสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เทรดดิ้ง จำกัด ดำรงตำแหน่งกรรมการเลขาธิการหอการค้าไทย ซึ่งกรรมการชุดใหม่ดังกล่าวจะมีวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี โดยตนจะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานอาวุโสต่อไป
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยคนใหม่ กล่าวว่า การเข้ามาเป็นกรรมการของหอการค้าไทย จะต้องทำงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสมาชิกและส่วนรวม การขับเคลื่อนหอการค้าไทยต่อจากนี้ จะเป็นการสานต่องานเดิมที่คณะกรรมการชุดเก่าได้วางไว้ พร้อมจะเน้นการสร้างศักยภาพและการเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอนาคตอันใกล้ ดังนั้น จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของคณะกรรมการฯให้สามารถประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ “เป็นสถาบันหลักทางธุรกิจที่มีองค์ความรู้มีเครือข่าย และความร่วมมือที่เข้มแข็งที่สุดของประเทศ โดยมีเป้าประสงค์ให้ประเทศไทยมีศักยภาพและแสวงหาโอกาส ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน”
นอกจากนั้น ยังได้มีการปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการชุดต่าง ๆ โดยยุบรวมภารกิจที่มีการทับซ้อนบทบาทและความรับผิดชอบระหว่างกัน ทั้งนี้ การดำเนินงานของคณะกรรมการชุดใหม่ ได้กำหนดพันธกิจ จำนวน 5 พันธกิจ สำหรับการขับเคลื่อนองค์กร เพื่อให้บรรลุผลตามวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ได้แก่
1. การสร้างสมองค์ความรู้ และแบ่งปันสู่ทุกภาคส่วนของธุรกิจอย่างเป็นระบบ(Knowledge Sharing)
2. การพัฒนาเพิ่มพูนทักษะ ความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ SME (Competency Enhancement)
3. การพัฒนาเครือข่ายและความร่วมมือ กับภาครัฐและเอกชน ทั้งในระดับประเทศ ภูมิภาคและระดับโลก เพื่อการพัฒนาธุรกิจทุกภาคส่วน (Connectivity and Collaboration)
4. การเสริมสร้างธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน(Good Governance & Corporate Social Responsibility)
5. การพัฒนาองค์กรให้มีประสิทธิภาพและมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคม(Organization Development)
ทั้งนี้ การปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อให้สอดรับกับพันธกิจของคณะกรรมการฯ ทั้ง 5 พันธกิจ จะแบ่งสายงานออกเป็น 17 สายงาน ซึ่งในแต่ละสายงาน จะมีรองประธานกรรมการและกรรมการรองเลขาธิการรับผิดชอบดูแล เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมให้มีประสิทธิภาพ โดยสายงานดังกล่าว ได้แก่
1. ศูนย์ข้อมูลหอการค้าไทย
2. งานเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
3. งานพัฒนาเศรษฐกิจ
4. งานสนับสนุนหอการค้าทั่วประเทศ
5. งานพัฒนาธุรกิจ
6. งานสนับสนุนสมาคมการค้า
7. งานความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
8. งานส่งเสริมการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน
9. งานส่งเสริมธุรกิจและกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ
10. งานความร่วมมือขององค์กรทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
11. งานประสานงานภาครัฐและสถาบันอื่น ๆ
12. งานสังคมและสิ่งแวดล้อม
13. งานนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคม
14. งานสร้างสรรค์บูรณาการองค์กร
15. งานสมาชิกภาพ
16. งานบริการ
17. งานด้านกฎหมาย
นายกลินท์ สารสิน กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยคนใหม่ กล่าวว่า ในฐานะกรรมการเลขาธิการ ตนพร้อมสนับสนุนแนวนโยบายและทิศทางการดำเนินงานของหอการค้าไทยให้มีการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมคัดสรรหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรง เข้ามาเป็นกรรมการรองเลขาธิการเพื่อช่วยขับเคลื่อนการทำงานให้บรรลุตามพันธกิจ 5 พันธกิจ ที่ประธานกรรมการหอการค้าไทยได้มอบไว้