กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,595 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,598 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.32 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 22,100 บาท กับ 22,200บาท และกลับมาปิดที่ 22,100 บาท กับ 22,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,202คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 5,249 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.42 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 0.56 % GFJ13 ปิด 22,310 บาท และ GFM13 ปิด 22,410 บาท GF10J13 ปิดที่ 22,310 บาท GF10M13 ปิดที่ 22,410 บาท
สัญญา Comex ไม่มีราคาเนื่องจากตลาดปิดทำการในวัน Good Friday สัญญา Silver ไม่มีราคาเนื่องจากตลาดปิดทำการในวัน Good Friday SPDR ถือครองทองคำ 1,221.26 ตัน (เท่าเดิม ) น้ำมัน NYMEX ไม่มีราคาเนื่องจากตลาดปิดทำการในวัน Good Friday ดาวโจนส์ ไม่มีราคาเนื่องจากตลาดปิดทำการในวัน Good Friday
ข่าวที่สำคัญ
ไตรมาส 1 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นไตรมาสที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2001 ของทองคำ เนื่องจากธนาคารไซปรัสกลับมาเปิดทำการได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลในปัญหาหนี้ยุโรป ส่งผลให้ลดความน่าดึงดูดใจในทองคำลงไป
เมื่อวันศุกร์ ตลาดสหรัฐ สหราชอาณาจักร และตลาดยุโรปปิดทำการในวัน Good Friday โดยในวันนี้การซื้อขายในตลาดสหรัฐจะกลับมาทำการอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นวันแรกของไตรมาสที่ 2 แต่ตลาดจีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี อังกฤษยังคงปิดทำการในวันนี้และจะกลับมาเปิดพรุ่งนี้
ปริมาณการถือครองทองคำของ Gold ETPs ลดลงเมื่อวันพฤหัสบดีสู่ระดับ 2,449.84 ตัน ลดลงมา 7% จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม
หลังจากที่ปัญหาไซปรัสไม่สามารถผลักดันราคาให้สามารถทะลุเหนือระดับ $1620 ได้ ตลาดกำลังจับตาไปที่ปัญหาทางการเมืองในอิตาลี ซึ่งอิตาลี ณ ขณะนี้ยังคงไม่มีรัฐบาล และการเจรจาระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ยังดำเนินต่อไป หากไม่สามารถตกลงกันได้อาจก่อให้เกิดการเลือกตั้งขึ้นอีกครั้ง
ปัญหาทางการเมืองในอิตาลีส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลี ที่ ณ ตอนนี้พันธบัตรอายุ 5 ปีมีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม
เช้านี้ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าระดับ $1600 เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินยูโรจากความกังวลที่ยังมีอยู่ในไซปรัส ในขณะที่การเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยยังนิ่งเฉย แม้ว่าจะมีความตึงเครียดในเกาหลีเหนือก็ตาม
ธนาคารกลางไซปรัสยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า ผู้ที่ฝากเงินในธนาคารไซปรัสมากกว่า 1 แสนยูโรจะต้องได้รับความเสียหายประมาณ 60%
นายคิม จอง อุน จากเกาหลีเหนือสั่งเตรียมการโจมตีเกาหลีใต้และสหรัฐ ในขณะที่นายฮาเกล จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้กล่าวประณาม "การกระทำที่ยั่วยุปลุกปั่นและกระหายสงคราม" ของเกาหลีเหนือ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งเครื่องบินรบลับ F-22 ไปยังเกาหลีใต้เพื่อร่วมการซ้อมรบทางทหารที่แสดงให้เห็นถึงข้อตกลงร่วมกัน เพื่อปกป้องเกาหลีใต้ในการเผชิญหน้ากับความรุนแรงจากเกาหลีเหนือ
วันพฤหัสบดีจะมีการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น อังกฤษ และยุโรป และวันศุกร์จะมีการรายงานตัวเลข Non-farm payroll
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวันศุกร์
- Core PCE Price Index m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.1%
- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.4 % ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.7%
- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 71.8 ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 78.6
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 54.2 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 54.2
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold - ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,590 — 1,610 เหรียญ และยังคาดว่าจะยังคงเคลื่อนตัวลักษณะนี้ในสัปดาห์นี้เช่นเดิม แม้จะมีปัญหาในเรื่องเกาหลีเหนือบ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่มีการปฏิบัติการรบจริง สำหรับปัญหาในไซปรัสดูจะเงียบๆ และซาลงไป
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,590 — 1,610 เหรียญในสัปดาห์นี้ต่อไป
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ซื้อขายทำกำไรในกรอบดังกล่าว กรอบด้านบนอยู่ที่ 1,610 เหรียญ และกรอบรับด้านล่างสำหรับซื้อเพื่อปิดทำกำไรที่บริเวณ 1,590 เหรียญ แนะนำให้ขายบริเวณ 1,605 เหรียญขึ้นไปในลักษณะการทำ Short Position
- นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบระยะเวลาสั้น 3 — 5 วัน เพื่อปิดทำกำไรในกรอบราคาดังกล่าว
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบระยะเวลาสั้น 3 — 5 วัน เพื่อปิดทำกำไรในกรอบราคาดังกล่าว
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,400 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 22,320 บาท และแนวต้านที่ระดับ 22,500 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง