สถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำสัปดาห์ที่ 25 - 28 มี.ค. 2556 และแนวโน้มในสัปดาห์ที่ 1-5 เม.ย. 2556

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 1, 2013 12:01 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 เม.ย.--ปตท. หมายเหตุ* วันที่ 29 มี.ค. 2556 เป็นวันหยุด Good Friday ของประเทศสหรัฐอังกฤษ และสิงคโปร์ไม่มีประกาศราคาน้ำมันดิบ และน้ำมันสำเร็จรูป ราคาน้ำมันเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ 25 - 28 มี.ค. 2556 น้ำมันดิบเพิ่มขึ้นทุกชนิด โดยน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) เพิ่มขึ้น 0.91 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่ 105.87 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล น้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 1.15 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 109.31 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) เพิ่มขึ้น 3.13 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 96.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาเฉลี่ยน้ำมันน้ำมันเบนซินออคเทน 95 เพิ่มขึ้น 0.47 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 122.93 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตามน้ำมันดีเซลลดลง 0.42 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 121.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ : ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงบวก - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ในไตรมาสที่ 4/2555 เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อน 0.3% มาอยู่ที่ระดับ 0.4% และรายงานดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค (Consumer Spending) เดือน มี.ค. 2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7% ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์และสูงสุดในรอบ 5 เดือน - ไซปรัสสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อขอรับเงินช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (European Union) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 1 หมื่นล้านยูโร โดยนาย Michael Sarris รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของไซปรัสประกาศปิดธนาคารพาณิชย์ทุกแหล่งรวมทั้ง Laiki และ The Bank of Cyprus เพิ่อที่จะรักษาสเถียรภาพทางการเงินของระบบธนาคารภายในประเทศ - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาเมืองชิคาโก รายงาน The National Activity Index เดือน ก.พ. 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.44 จุด (เดือน มี.ค. = -0.32 จุด) - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดสั่งซึ้อสินค้าคงทน (Durable goods) ในเดือน ก.พ. 2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5.7% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ - Standard & Poors รายงานดัชนีราคาที่อยู่อาศัยใน 20 เมืองใหญ่ของประเทศสหรัฐฯ (S&P/Case-Shiller composite) ในเดือน ม.ค. 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 1% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2549 - European Commission รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของกลุ่มยูโรโซน (Consumer Sentiment) เดือน มี.ค.2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.1 จุด อยู่ที่ระดับ -23.5 จุด เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับนักวิเคราะห์คาดการณ์ ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันในเชิงลบ - บริษัท Shell รายงานแหล่งน้ำมัน Majnoon ใน Iraq ซึ่งมีน้ำมันดิบสำรองที่พิสูจน์แล้ว 38,000 ล้านบาร์เรล จะสามารถผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 175,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในกลางปี 2556 และบริษัท Lukoil ของรัสเซียรายงานแหล่งน้ำมัน West Qurna ใน Iraq ซึ่งมีสำรองน้ำมัน 12,600 ล้านบาร์เรล จะสามารถผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 400,000 บาร์เรลต่อวัน ภายในต้นปี 2557 - Ministry of Economy, Trade and Industry (METI) ของญี่ปุ่นรายงานยอดขายปลีก (Retail Sales) เดือน ก.พ. 2556 ลดลงจากเดือนก่อน 2.3% ลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ - บริษัท Trafigura ได้ทำสัญญาซื้อน้ำมันดิบ Dar Blend กับประเทศซูดานใต้ ทั้งนี้ซูดานใต้กำลังจะเริ่มผลิตน้ำมันดิบและส่งออกผ่านท่อที่พาดผ่านประเทศซูดานไปยังท่าที่ทะเลแดงในช่วงสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ซูดานใต้มีปัญหาข้อพิพาทเรื่องเขตแดนกับประเทศซูดานโดยมีการปะทะกัน ส่งผลให้ซูดานใต้หยุดการผลิตน้ำมันดิบปริมาณ 350,000 บาร์เรลต่อวัน ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2555 - เวียดนามรายงานอัตราการผลิตน้ำมันดิบเดือน มี.ค. 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 5.7% อยู่ที่ระดับ 338,000 บาร์เรลต่อวัน แนวโน้มราคาน้ำมัน นักลงทุนให้ความสนใจลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้นหลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง โดยวันที่ 28 มี.ค. 2556 ดัชนี S&P 500 ปิดตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ 1,569.19 จุด และกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ รายงานดัชนีการใช้จ่ายของผู้บริโภค เดือน มี.ค. 2556 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 0.7% สูงสุดในรอบ 5 เดือน บ่งชี้เศรษฐกิจที่ขยายตัว ทั้งนี้ในไตรมาส 1/2556 ราคาซื้อขายน้ำมันดิบ WTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 5.9% หลังจากปรับตัวลดลง 0.4% ในไตรมาสที่ 4/2555 กอปรกับสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์จากเกาหลีเหนือประกาศสงครามกับเกาหลีใต้โดยการขู่ปิดพื้นที่บริเวณเขตอุตสาหกรรมตามแนวชายแดนของทั้งสองประเทศ อีกทั้ง OPEC ผลิตน้ำมันดิบเดือน มี.ค. 2556 อยู่ที่ 30.18 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 0.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตามปัญหาหนี้สินและการขาดสภาพคล่องในยุโรปยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาด โดยธนาคารกลางของไซปรัส (Troika) ออกประกาศว่าผู้ที่มีบัญชีเงินฝากมากกว่า 100,000 ยูโร อาจถูกเรียกเก็บภาษีเงินฝากประมาณ 60% ทั้งนี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent และ WTI จะเคลื่อนไหวในกรอบ 109.00- 111.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ 96.60- 97.72 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลตามลำดับ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ