กรุงเทพฯ--2 เม.ย.--สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย
อุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะนำมาซึ่งความสูญเสียแก่ผู้เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ประสบเหตุและญาติผู้ประสบเหตุอย่างไม่สามารถประเมินค่าได้ โดยสร้างผลกระทบทั้งด้านความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทั้งที่สามารถรักษาให้หายดังเดิมหรือไม่สามารถหายเป็นปกติได้ ทั้งนี้ ผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะควรได้รับการชดเชยเยียวยาจากผลกระทบที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุนี้อย่างดีที่สุด เนื่องจากผู้ประสบเหตุถือเป็นบุคคลที่ 3 ที่ไม่มีส่วนต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุนี้อย่างไรก็ดี การชดเชยเยียวยาจากอุบัติเหตุในกรณีของผู้ประสบอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ มักประสบปัญหาในการได้รับความช่วยเหลือหลายประการ ทั้งส่วนของการขาดความรู้เรื่องสิทธิของผู้โดยสารที่ประสบเหตุพึงได้รับ การชดเชยเยียวยาที่ไม่เป็นธรรมจากบริษัทประกันภัย และผู้ประกอบการขนส่งรถโดยสารสาธารณะ รวมถึงการขาดคำแนะนำในกรณีที่เป็นคดีความฟ้องร้องในชั้นศาล
ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณา คือ ความเหมาะสมของการชดเชยเยียวยาเมื่อเกิดอุบัติเหตุในปัจจุบัน ทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาล ค่าสินไหมทดแทนการขาดรายได้ และค่าชดเชยอื่นๆ ซึ่งประเด็นการชดเชยเยียวยานี้ทำให้เกิดคำถามต่อเนื่องที่ว่า ระบบประกันภัยอุบัติเหตุในปัจจุบัน เหมาะสมกับผู้โดยสารรถโดยสารสาธารณะหรือไม่ ทั้งในส่วนของประกันภัยภาคบังคับและประกันภัยภาคสมัครใจ รวมไปถึงบทบาทของบริษัทประกันภัยในการยกระดับความปลอดภัยของการเดินทางทางถนน และประเด็นเรื่องกลไกการเชื่อมโยงความรับผิดชอบเพื่อยกระดับความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ
งานวิจัยนี้ต้องการศึกษาถึงผลกระทบของอุบัติเหตุของรถโดยสารสาธารณะ ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประสบอุบัติเหตุ รวมถึงญาติพี่น้องของผู้ประสบอุบัติเหตุ และกระบวนการชดเชยเยียวยาในปัจจุบัน เพื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาและอุปสรรค พร้อมทั้งนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ร่วมกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน จึงกำหนดจัดการแถลงข่าว“โครงการอุบัติเหตุรถโดยสารสาธารณะ: ผลกระทบ การประกันภัย และการชดเชยเยียวยา”นำเสนอผลการศึกษา โดยดร. สุเมธ องกิตติกุล และ นายแพทย์ธนะพงศ์ จินวงษ์ ในวันพุธที่ 3 เมษายน 2556เวลา 09.30 — 11.00 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย และหวังอย่างยิ่งว่าท่านจะเข้าร่วมการแถลงข่าวครั้งนี้เพื่อนำเสนอสาระข้อมูลอันเป็นประโยชน์สู่สาธารณะ
สื่อมวลชนติดต่อเพิ่มเติมได้ที่
0-2270-1350 ต่อ 113e-mail:prtdri@gmail.com