กทม. ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้

ข่าวทั่วไป Wednesday December 29, 2004 09:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--กทม.
นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แจ้งที่ประชุมคณะผู้บริหารกทม.ทราบ กรณีปัญหาภัยพิบัติในภาคใต้ครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บ สูญหาย และเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งนี้ กทม.ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้” เพื่อประสานความช่วยเหลือจาก ผู้ที่มีความประสงค์จะบริจาคปัจจัยการดำรงชีพ สิ่งของต่างๆ และส่งต่อไปยังผู้ประสบภัยในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่ประสบภัยต้องการมากที่สุดคือ โลหิต กรุ๊ป Rh- สำหรับชาวต่างชาติ กรุ๊ป A, B, O และโลงศพ จำนวนมาก ซึ่งประชาชนสามารถบริจาคได้ที่ โรงพยาบาลในสังกัด กทม. 4 แห่ง ได้แก่ วชิรพยาบาล โรงพยาบาลกลาง โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ และโรงพยาบาลตากสิน เนื่องจากขณะนี้มีผู้ไปรอบริจาคโลหิตที่สภากาชาดไทยจำนวนมาก จนไม่สามารถให้บริการได้ทัน ซึ่งตั้งแต่ตั้งหน่วยรับบริจาคโลหิตช่วยเหลือผู้ประสบภัยตั้งแต่วานนี้ จนถึงเช้าวันที่ 28 ธ.ค.47 รวมจำนวนยอดผู้บริจาคในโรงพยาบาลสังกัด กทม. จำนวน 309 ราย และยังมีผู้ที่รอบริจาคอีกเป็นจำนวนมาก
เชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค
ขณะนี้ที่ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้กทม. มีผู้มาร่วมบริจาคปัจจัยสิ่งของและเงินช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง อาทิ มูลนิธิวัดอรุณราชวรารามฯ และวัดประเวศ บริจาคหีบศพ รวมจำนวน 500 หีบ สำนักอนามัยสนับสนุนถุงใส่ศพจำนวน 1,200 ถุง บริษัทไทยน้ำทิพย์ และมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ในพระอุปถัมภ์ฯ บริจาคน้ำดื่มจำนวน 20,000 ขวด พร้อมอาหารสำเร็จรูป บริษัทมีเด็กอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริจาคเสื้อผ้า 2,000 ชุด มูลค่ากว่า 300,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการบริจาคอาหารสำเร็จรูปจากภาคเอกชน และบุคคลทั่วไป ข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม จากบริษัท ห้างร้าน และประชาชน ผู้มีจิตศรัทธา เป็นต้น ทั้งนี้ผู้สนใจบริจาคสิ่งของสามารถบริจาคได้ที่ ศูนย์ประสานความช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ ณ ห้องรับรองกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม. (เสาชิงช้า) โทร. 0 2221 8981 หรือ สำนักงานเขตพื้นที่ทั้ง 50 สำนักงานเขต
สำหรับผู้ประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนข้าวสาร เลขที่บัญชี “เมืองหลวงช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้” ที่ศูนย์มีผู้มาบริจาคที่ศูนย์ หรือส่งผ่าน 50 สำนักงานเขต เพื่อจะได้ทราบจำนวนของผู้ที่มีความห่วงใยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
จัดทีมแพทย์ฉุกเฉินลงพื้นที่ภาคใต้
นอกจากนี้กทม. ยังได้จัดส่งคณะแพทย์ พยาบาล พร้อมอุปกรณ์ รถแพทย์ฉุกเฉิน และหน่วยบรรเทาสาธารณภัย 50 นาย ลงไปเป็นกำลังสนับสนุนยังจังหวัดประสบภัยภาคใต้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค.47) ซึ่งจะได้กระจายไปตามโรงพยาบาลและสนามบินในจังหวัดประสบภัยภาคใต้เพื่อดูแลและรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที รวมถึงจัดรถพยาบาลฉุกเฉินไปยังสนามบินดอนเมือง เพื่อรับผู้ป่วยส่งต่อไปยังโรงพยาบาลในสังกัดกทม. และโรงพยาบาลต่างๆ ตามที่ผู้ป่วยร้องขอ ทั้งนี้ผู้ว่าฯกทม.ได้กำชับให้ดูแลทีมแพทย์และหน่วยกู้ภัยที่ส่งไปด้วย เนื่องจากเป็นผู้ลงไปปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละยิ่ง ซึ่งภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จะได้เดินทางไปพบปะผู้ที่รอบริจาคเลือด ณ โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นอกจากนี้ให้จัดเตรียมห้องพักในศูนย์ส่งเสริมสถานภาพสตรี ทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง เพื่อรับรองนักท่องเที่ยวที่รอเที่ยวบินกลับประเทศ พร้อมทั้งสั่งการให้เขตดอนเมือง สายไหม บางเขน บางซื่อ หลักสี่ จตุจักร ห้วยขวาง คันนายาว ลาดพร้าว วังทองหลาง พญาไท ดินแดง ปทุมวัน สาทร วัฒนา คลองเตย และเขตบางรัก สำรวจจำนวนห้องพักที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาพักในกรุงเทพฯ จากนั้นรายงานให้กองการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครทราบภายในวันนี้ (28 ธ.ค.47) เวลา 13.30 น. เพื่อลำเลียงนักท่องเที่ยวจากจังหวัดที่ได้รับผลกระทบเข้าพักและรักษาในกทม.
ขอความร่วมมืองดจัดกิจกรรมรื่นเริงและร่วมทำบุญตักบาตร บำเพ็ญกุศลในวันที่ 1 ม.ค.48
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (28 ธ.ค.47) ได้ประกาศให้สถานที่ราชการและภาคเอกชนลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 28 —30 ธ.ค.47 รวมทั้งให้ศาสนสถานจัดบำเพ็ญกุศล และเชิญชวนประชาชนแต่งชุดดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คลื่นยักษ์ถล่มในภาคใต้
ในการนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอความร่วมมือข้าราชการและลูกจ้างสังกัดกทม. แต่งชุดดำหรืองดเครื่องแต่งกายสีสดเพื่อร่วมไว้อาลัย อีกทั้งงดจัดกิจกรรมบันเทิง รื่นเริงต่างๆ กรณีจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติ ขอให้คงไว้เฉพาะพิธีเทิดพระเกียรติเท่านั้น ตลอดจนงดการจุดพลุไฟด้วย ทั้งนี้ ตนจะทำหนังสือถึงหน่วยงานเอกชนที่เตรียมจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยจะขอให้ดำเนินการจัดงานอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ขอเชิญชวนผู้บริหาร ข้าราชการและลูกจ้าง กทม. ทุกคน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรในวันที่ 1 ม.ค.48 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว โดยพร้อมเพรียงกัน
กำหนดมาตรการรับเหตุฉุกเฉินช่วงปีใหม่
ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้ว่าฯ กทม.ได้สั่งการผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมในการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ประชุมซักซ้อมแผนการปฏิบัติงานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ปรับปรุงประสิทธิภาพการรับแจ้งเหตุ ระบบตรวจสอบ และการรายงานให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น และรายงานให้ผู้บริหารรับทราบเพื่อสั่งการแก้ไขอย่างทันเหตุการณ์ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯ สามารถ ราชพลสิทธิ์ ประชุมเตรียมแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้รัดกุมภายในสัปดาห์นี้--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ