กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) บุกตลาดต่างประเทศ หวังสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัทฯ ชี้ มั่นใจครึ่งปีแรก ยอดขายต่างประเทศไม่ต่ำว่า 600,000 ตัน ซึ่งสูงกว่าปี2555ทั้งปี ขณะที่ อินเดีย รอจ่อเซ็นสัญญาซื้อขายถ่านหิน แล้ว 2-3 ราย คาดสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ เชื่อรายได้ปีนี้ แตะ 6,000 — 6,500 ล้านบาท
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด(มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดคำสั่งซื้อ(ออเดอร์)ในประเทศจีน ในช่วงครึ่ง ปีแรก ไว้ไม่ต่ำกว่า 600,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากยอดขายของปี 2555 ทั้งปี ที่มียอดออเดอร์ 532,210 ตัน ทั้งนี้ เป็นผลจากความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้น จากการขยายตัวของโรงไฟฟ้า ประกอบกับการปริมาณการนำเข้าถ่านหินในประเทศเฉลี่ย 200 ล้านตันต่อปี ในขณะที่ความต้องการใช้ต่อปี อยู่ที่ 3,500 ล้านตัน ดังนั้น เชื่อว่าอัตราการนำเข้าถ่านหินจากประเทศจีน ยังมีแนวโน้มการขยายตัวได้ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2556 บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาด ไปยังประเทศอินเดีย เนื่องด้วยแผนการขยายธุรกิจโรงไฟฟ้าของประเทศอินเดีย ที่คาดว่าจะสร้างกว่า 200 โรง หรือประมาณ 80,000 เมกกะวัตต์ ภายในปี 2560 ซึ่งส่งผลให้อินเดีย เป็นประเทศที่มีอัตราการนำเข้าถ่านหินเป็นอันดับ 2 ในเอเชียรองจากประเทศจีน โดยคาดว่าการนำเข้าถ่านหินจะเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านตันต่อปี ซึ่งจากในปี 2555 อินเดีย มีอัตราการนำเข้าถ่านหินอยู่ที่ 98 ล้านตัน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้บริษัท AGE จึงต้องเร่งบุกตลาดไปยังประเทศอินเดียมากขึ้น โดยล่าสุด บริษัทฯ มีลูกค้า ที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา ในการสั่งซื้อถ่านหิน เข้ามาแล้วประมาณ 2-3 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปดีลได้ และมียอดออเดอร์ ทยอยเข้ามาภายในไตรมาส 2 นี้อย่างแน่นอน
“ความต้องการใช้ถ่านหินในประเทศอินเดีย ยังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และประกอบกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้นตามอย่างมาก ซึ่งทำให้ใน 2-3 ปีที่ผ่านมา ประเทศอินเดียมีความจำเป็นต้องพึ่งพิงกับการนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องมาจากกำลังการผลิตภายในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการ “ นายพนม กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าประมาณการยอดขายถ่านหินของตลาดต่างประเทศ ในครึ่งปีแรกไม่ต่ำกว่า 600,000 ตัน ซึ่งยอดขายดังกล่าว ยังไม่นับรวมออเดอร์จากประเทศอินเดีย ที่จะเข้ามาในไตรมาส 2/2556 นี้ ทั้งนี้ หากยอดขายในต่างประเทศ เป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้ ก็จะทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศในปีนี้ประมาณ 40% จากเป้าเดิมที่ 30% ของยอดขายทั้งหมด ส่วนยอดขายรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศของปี 2556 บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายกว่า 2,200,000 ตัน ขณะที่รายได้คาดว่าจะแตะระดับ 6,000 — 6,500 ซึ่งจะเห็นได้ว่าในปีนี้ บริษัทจะมี ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ผลจากการดำเนินการตามแผนลดต้นทุน โครงการท่าเรือและคลังสินค้านครหลวงส่งผลให้บริษัท ฯ สามารถกลับมาทำ New High ในส่วนของกำไรสุทธิ ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการคลังสินค้าแบบประหยัดพลังงาน และได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยยกเว้นภาษีเงินได้ 8 ปี อีกทั้งยังเป็นโครงการที่ลดการขนส่งด้านโลจิกติกส์ ที่สามารถช่วยลดต้นทุนให้แก่บริษัทฯได้เฉลี่ยปีละกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจากปัจจัยดังล่าวในข้างต้น ได้รับอานิสงค์ให้อัตราการทำกำไรต่อปีจะเพิ่มสูงขึ้น 1-2 % ต่อปี โดยสามารถรับรู้ได้ตั้งแต่ไตรมาส3 / 2555 ที่คลังสินค้าเริ่มเปิดดำเนินการ