กรุงเทพฯ--3 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
มหาวิทยาลัยศรีปทุม ร่วมกับ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าผลักดันคุณภาพทางการศึกษาด้านดิจิทัล ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีเวิร์คสเตชั่นอันล้ำสมัย ตระกูล Z ซีรีส์ ในห้องปฏิบัติการคณะดิจิทัลมีเดีย เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนด้านสื่อมัลติมีเดียที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมุ่งพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในด้านดิจิทัล คอนเทนท์ โดยเน้นการปฏิบัติเป็นสำคัญ เพื่อมุ่งส่งเสริมให้เกิดความรู้เชิงสร้างสรรค์แก่นักศึกษาอย่างมีศักยภาพ และยกระดับความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านดิจิทัลคอนเทนท์ของประชาคมอาเซียน
มหาวิทยาลัยศรีปทุมเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาเยาวชนไทย ให้เป็นบุคลากรที่เป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านดิจิทัลคอนเทนท์ของประเทศ เนื่องจากเทคโนโลยีด้านดิจิทัลเข้ามามีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไร้สายต่างๆ ทำให้รูปแบบของสื่อด้านดิจิทัลมีการพัฒนา และแข่งขันกันมากขึ้นทั้งในด้านเนื้อหา เทคโนโลยี รูปแบบ รวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งพัฒนาการของสื่อดิจิทัลนี้ ก่อให้เกิดมูลค่าเชิงพาณิชย์อย่างมหาศาล เห็นได้ชัดจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมเชิงสร้างสรรค์ด้านดิจิทัล คอนเทนท์ เช่น ภาพยนตร์ ภาพยนตร์โฆษณา ภาพยนตร์การ์ตูน เกมออนไลน์ วิดีโอเกม เกมมือถือ และสื่อผสม (Multimedia) ต่างๆ
เมื่อความต้องการบริโภคสื่อมัลติมีเดียเพิ่มขึ้น ความต้องการด้านบุคลากรที่มีความสามารถในการผลิตผลงานย่อมมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย มหาวิทยาลัยศรีปทุมจึงก่อตั้งคณะดิจิทัลมีเดียขึ้น โดยประกอบด้วย 5 สาขาวิชาดังนี้
1. สาขาวิชาดิจิทัลอาร์ตส์ (Digital Arts)
2. สาขาวิชาคอมพิวเตอร์แอนิเมชั่น (Computer animation)
3. สาขาวิชาการออกแบบอินเทอร์แอคทีฟและเกม (Interactive and game design)
4. สาขาวิชาวิชวลเอฟเฟกต์ (Visual effect)
5. สาขาวิชาการออกแบบกราฟิก (Graphic design)
ดร.กมล จิราพงษ์ คณบดี คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยมีความมุ่งมั่น ที่จะเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอน และทักษะด้านการสร้างสรรค์สื่อมัลติมีเดียของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นให้นักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติจริง เพราะฉะนั้นการมีห้องปฎิบัติการที่พร้อมต้อนรับนักศึกษาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มัลติมีเดียที่เหมาะกับการออกแบบผลงานแต่ละด้านจึงเป็นสิ่งจำเป็น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และนวัตกรรมเวิร์คสเตชั่นจากเอชพีตระกูล Z ซีรีส์ ในห้องปฏิบัติการ สามารถเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ เสริมสร้างประสบการณ์การเรียนการสอนด้านการออกแบบงานมัลติมีเดียที่มีประสิทธิภาพ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยีอีกต่อไป”
ดร.กมล กล่าวเสริมถึงแนวทางการผลักดันการศึกษาด้านดิจิทัลมีเดียของมหาวิทยาลัย รวมถึงพัฒนาคุณภาพผลงานดิจิทัลมีเดียของนักศึกษา ให้เท่าเทียมระดับมืออาชีพ “นอกจากการเลือกใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในห้องปฏิบัติการแล้ว ทางมหาวิทยาลัยยังส่งเสริมทักษะด้านดิจิทัลมีเดียของนักศึกษาให้พัฒนาขึ้นจนเท่าเทียมระดับมืออาชีพ ด้วยการส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าร่วมโครงการประกวดผลงานต่างๆ โดยให้การสนับสนุนทั้งอาจารย์ที่ให้คำปรึกษา และทรัพยากรที่ใช้ในการผลิตผลงาน จนทำให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยสามารถคว้ารางวัลต่างๆ มามากมาย”
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์ — แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอชพี ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี เล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านดิจิทัลมีเดีย ด้วยการส่งมอบโซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ไอทีที่ ล้ำสมัย และมีประสิทธิภาพ ให้สอดคล้องกับการเติบโตของยุคดิจิทัลในปัจจุบัน โดยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ อันหลากหลาย ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้านการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยได้อย่างตรงจุด หนึ่งในนั้นคือ ผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่นรุ่น ตระกูล Z400 ซีรีส์ และ Z200 ซีรีส์ ซึ่งจัดว่าเป็นเวิร์คสเตชั่นรุ่นล่าสุดที่มีขีดความสามารถในการใช้งานสูง มาพร้อมเทคโนโลยีมัลติคอร์ล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานด้านแอนนิเมชั่นโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่เน้นการใช้งานคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มทักษะการออกแบบสร้างสรรค์ผลงานมัลติมีเดียของนักศึกษา ให้การเรียนการสอนด้านดิจิทัลมีเดียเกิดประสิทธิผลอันสูงสุด และช่วยให้นักศึกษาสามารถต่อยอดความรู้ด้วยตนเองจากการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ออกแบบผลงานที่มีคุณภาพทัดเทียมระดับมืออาชีพ และนำไปสู่ชีวิตการทำงานที่มีคุณภาพในอนาคต”
สำหรับผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่น ตระกูล Z400 ซีรีส์ และ Z200 ซีรีส์ ที่ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมเลือกใช้ในห้องปฏิบัติการ มาพร้อมประสิทธิภาพที่เหนือกว่า พร้อมรองรับการใช้งานแอพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ต้องการ การประมวลผลอย่างเต็มพิกัดสำหรับมืออาชีพโดยเฉพาะ
ผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่น ตระกูล Z400 ซีรีส์ ปัจจุบันคือรุ่น HP Z420 ตอบสนองทุกความต้องการสำหรับ ทุกวงการ ทั้งการออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์, สถาปัตยกรรม, Animation, Visual Effect, Multimedia, การตัดต่อวิดีโอ และภาพถ่าย มาพร้อมหน่วยประมวลผล Intel? Xeon? processor E5-1600 และ E5-2600 สูงสุดถึง 8 คอร์ รวมถึงหน่วยความจำ ECC 64 GB และจัดเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็วทันใจระดับไฮสปีดถึง 11 TB รวมถึงออปชั่นกราฟฟิกการ์ด NVIDIA Quadro K5000 graphics (Graphic Memory 4GB) หรือ dual NVIDIA Quadro K2000 graphics (Graphic Memory 2GB)
นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่น Z420 ยังมาพร้อมเทคโนโลยี PCI Express เจเนอเรชั่น 3 ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสิทธิภาพการทำงานด้านภาพได้อย่างเหนือระดับ และการทำงานร่วมกับกราฟฟิกการ์ดใหม่ได้อย่างไร้รอยต่อ พร้อมทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานได้ถึงร้อยละ 90 ทั้งพลังงานจากการใช้งาน และพลังงานที่สูญเสียจากความร้อนภายในตัวเครื่อง พร้อมกันนี้ยังได้รับการรับรองมาตรฐานของ EPEAT Gold และปรับตั้งค่าของผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับมาตรฐาน ENERGY STAR?
สำหรับผลิตภัณฑ์เวิร์คสเตชั่น ตระกูล Z200 ซีรีส์ ปัจจุบันคือรุ่น HP Z220 ได้รับการออกแบบมาสำหรับ การใช้งานประสิทธิภาพสูง ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ แต่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่าอันเหลือเชื่อ ตอบสนองความต้องการใช้งานในระดับมืออาชีพ ในแวดวงและภาคธุรกิจต่างๆ ตั้งแต่ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบเครื่องกล (MCAD) ด้านการออกแบบสถาปัตย์ วิศวกรรมและการก่อสร้าง (AEC), Digital Content and Creation, Multimedia รวมถึงในวงการตัดต่อวิดีโอระดับมืออาชีพ สำหรับภาคการศึกษา เฮลท์แคร์และหน่วยงานราชการ มาพร้อมขุมพลังหน่วยประมวลผลจาก Intel? Core และ Intel? Xeon? processors เจนเนอร์เรชั่นใหม่ล่าสุด และกราฟิกแยกระดับมืออาชีพจาก Intel, NVIDIA และ AMD พร้อมพอร์ทเชื่อมต่อ USB 3.0 ความเร็วสูงถึง 4 พอร์ท
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีเวิร์คสเตชั่นล้ำสมัยตระกูล Z400 ซีรีส์ และ Z200 ซีรีส์ ในห้องปฏิบัติการคณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม นับว่ามีบทบาทสำคัญในการสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนท์ที่กำลังพัฒนา และขยายตัวสร้างรายได้ให้กับประเทศอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังตอกย้ำความเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านดิจิทัลคอนเทนท์ ในเอเชียได้อย่างแท้จริง