กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
“เพชรยูบิลลี่’ ประเดิมปี 2013 ต่อยอดความสำเร็จคอลเลคชั่น The Excellence ตอกย้ำคุณภาพเพชร ด้วย 2 ดีไซน์ใหม่ เลือกใช้เพชรระดับ D color ผ่านการเจียระไนระดับ Triple Excellent และเทคโนโลยีการผลิต MICROSET สร้างสรรค์ชิ้นงานที่มีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ หนุนภาพลักษณ์ตราสินค้าแกร่ง จับลูกค้าไฮเอนด์ พร้อมผนึกพันธมิตรบัตรเครดิต จัดแคมเปญ Triple Excellence Privilege กระตุ้นการซื้อ ดันสัดส่วนยอดขายจากคอลเลคชั่น The Excellence เพิ่มขึ้นเป็น 15% จากเป้าหมายยอดขายรวมปีนี้ที่ 1.5 พันล้านบาท
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE ผู้นำธุรกิจค้าปลีกในการจัดจำหน่ายเพชร และเครื่องประดับเพชรในประเทศไทย ภายใต้ แบรนด์ “เพชรยูบิลลี่” เปิดเผยว่า หลังจากเพชรยูบิลลี่ได้เริ่มเปิดตัวเครื่องประดับเพชรคอลเลคชั่น ‘ดิ เอ็กซ์เซลเล็นซ์’ (The Excellence) โดยชูจุดเด่นตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบในการผลิต โดยใช้เพชรระดับ D color รวมถึงการเจียระไนเพชรที่เป็นเลิศระดับ Triple Excellent และการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมรับประกันคุณภาพสินค้าตามมาตรฐานสถาบันตรวจสอบคุณภาพเพชรจาก GIA ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อแบรนด์เพชรยูบิลลี่ ทำให้ได้รับการยอมรับจากลูกค้าว่า เป็นแบรนด์เพชรที่มีคุณภาพเทียบชั้นแบรนด์เพชรชั้นนำในระดับโลก
จากความสำเร็จดังกล่าว “เพชรยูบิลลี่” จึงตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านคุณภาพเพชรอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดตัวคอลเลคชั่น ‘ดิ เอ็กซ์เซลเล็นซ์ 2013’ ขึ้นเป็นปีที่ 3โดยเปิดตัวอีก 2 ดีไซน์ใหม่ ได้แก่ แหวนเพชรรุ่น Alesia (อลิเซีย) ซึ่งเป็นแหวนประดับเพชรเม็ดกลาง 3 เม็ด บนตัวเรือนทองคำขาวที่เน้นความเรียบง่าย แต่โก้หรูและสง่างาม คลาสสิค โดยอีกหนึ่งจุดเด่นของ Alesia คือ ปกติ The Excellence Collection จะใช้เพชรน้ำหนัก 0.30 กะรัต แต่ Alesia จะใช้เพชรน้ำหนัก 0.40 กะรัต ซึ่งจะหายากกว่า 0.30 กะรัต ขณะที่ชิ้นส่วนประกอบของ Alesia จะมีอยู่ 10 ส่วน ซึ่งทำให้ขั้นตอนการผลิตมีความซับซ้อนและยากมากขึ้น สำหรับเทคโนโลยีการฝังเพชรนั้น ใช้ microscope setting technique ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชั้นสูง ในการนำมาสรรสร้างผลงานอันทรงคุณค่าอย่าง Alesia ที่สะท้อนถึงพลังแห่งชัยชนะ
ส่วนอีกหนึ่งดีไซน์ เป็นแหวนเพชรรุ่น Fiora (ฟิโอร่า) ซึ่งเป็นแหวนเพชรน้ำงามประดับเพชร 7 เม็ด โดยได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากมวลดอกไม้เสมือนหญิงสาวที่มีความอ่อนหวานและสง่างาม นอกเหนือจากความพิเศษในคุณภาพ เพชรสี D Color อันเป็นเลิศแล้ว กระบวนการและขั้นตอนการผลิต The Excellence 2013 มีขั้นตอนที่ซับซ้อน ซึ่งต้องใช้เครื่องจักรมูลค่าสูงและเทคโนโลยีพร้อมความชำนาญในการผลิต สำหรับ Fiora มีส่วนประกอบถึง 8 ส่วน กว่าจะได้แหวน 1 วง ซึ่งสามารถสังเกตได้จากความคมชัดของลวดลายอันโดดเด่นในตัววงแหวน และตัวของแหวนที่เป็นตัวรองรับเพชรเม็ดกลาง 7 เม็ด ซึ่งจะเห็นเป็นโครงสร้างที่มิติอย่างสวยงาม ดังนั้น ในการที่จะได้แหวน Fiora 1 วงนั้น มีขั้นตอนการผลิต การประกอบชิ้นส่วน และการฝังเพชรซึ่งใช้ microscope setting technique ที่สุดของเทคโนโลยี
“แหวนแพชร 2 ดีไซน์ใหม่ในคอลเลคชั่น ดิ เอ็กซ์เซลเล็นซ์ 2013 ถือเป็นสินค้าคุณภาพระดับโลกที่เพชรยูบิลลี่ต้องการนำเสนอให้เห็นถึงคุณภาพในการสร้างสรรค์สินค้าในคอลเลคชั่นดังกล่าว ที่ใส่ใจในขั้นตอนการผลิตตั้งแต่การออกแบบสินค้า การคัดเลือกเพชร D color มาเจียระไนเพชรในระดับ Triple Excellent พร้อมใช้เทคโนโลยีการฝังเพชรแบบ MICROSET มาช่วยสร้างความแตกต่างของการขึ้นตัวเรือนให้มีความโดดเด่น สามารถยกระดับภาพลักษณ์สินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าระดับบนที่ต้องการเครื่องประดับเพชรที่มีคุณภาพ ซึ่งสอดรับแผนดำเนินงานในปีนี้ที่ บริษัทฯ ต้องการยกระดับคุณภาพให้ดีขึ้น เพื่อผลักดันกำไรต่อชิ้นและยอดขายให้เติบโตเพิ่มขึ้น” นางสาวอัญรัตน์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนทำตลาดนั้น บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ Triple Excellence Privilege มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ต้องการครอบครองเพชรคอลเลคชั่น ‘ดิ เอ็กซ์เซลเล็นซ์ 2013’ โดยร่วมมือกับพันธมิตรบัตรเครดิตกสิกรไทย จัดโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับฟรีบัตรกำนัลเงินสดจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมูลค่า 6,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อแหวนเพชรรุ่น Fiora’ หรือรับบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 2,900 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อแหวนเพชรรุ่น Alesia พร้อมรับฟรี The Excellence Jewelry Box บรรจุภัณฑ์สุดหรูที่ออกแบบเฉพาะสำหรับคอลเลคชั่นนี้โดยเฉพาะให้กับลูกค้าทุกท่าน
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า แหวนเพชรคอลเลคชั่น ‘ดิ เอ็กซ์เซลเล็นซ์ 2013’ ทั้ง 2 ดีไซน์ใหม่ จะช่วยตอกย้ำด้านคุณภาพสินค้าที่ลูกค้าให้การตอบรับ และเพิ่มสัดส่วนยอดขายในคอลเลคชั่นดังกล่าวจากเดิม 10% เป็น 15% ของยอดขายรวมปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ที่ 1,500 ล้านบาท