กรุงเทพฯ--4 เม.ย.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
มิตซูบิชิ มิราจ โชว์ความโดดเด่นของเทคโนโลยีและสมรรถนะขึ้นแท่นรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 ในขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต คว้ารางวัลรถกระบะอเนกประสงค์เครื่องยนต์เบนซินยอดเยี่ยม ส่วนไทรทันครองรางวัลรถกระบะซีเอ็นจียอดเยี่ยมต่อเนื่องเป็นปีที่สอง
มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จในการผลิตรถยนต์คุณภาพอีกครั้ง หลังจากรถยนต์มิตซูบิชิ 3 รุ่น ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ มิตซูบิชิ มิราจ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ มิตซูบิชิ ไทรทัน สามารถคว้ารางวัล “รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2556” หรือ “Car of The Year 2013” มาครองจากผลการตัดสินของคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2556 ที่มิตซูบิชิ ได้รับประกอบด้วย;
ประเภทรางวัล รุ่น
1.รถยนต์นั่ง5 ประตู รุ่นเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,200 ซีซี ยอดเยี่ยม มิตซูบิชิ มิราจ1.2 CVT
(BEST HATCHBACK UNDER 1,200 C.C.)
2.รถกระบะอเนกประสงค์ประเภทเครื่องยนต์เบนซิน ขับเคลื่อน2 ล้อ ยอดเยี่ยม มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต3.0 V6
(BEST PPV PETROL 2WD)
3.รถกระบะระบบซีเอ็นจียอดเยี่ยม มิตซูบิชิ ไทรทัน2.4 ซีเอ็นจี
(BEST PICKUP CNG)
มร. มูราฮาชิ กล่าวภายหลังจากการรับมอบรางวัลว่า “สำหรับในปีนี้ มิราจ ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของเราได้โชว์สมรรถนะที่เป็นเยี่ยมจนสามารถทำคะแนนได้สูงสุดและคว้ารางวัลรถยนต์นั่ง 5 ประตู รุ่นเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1,200 ซีซี ยอดเยี่ยมมาครอง ซึ่งรางวัลที่ได้รับในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่มาช่วยการันตีถึงคุณภาพของมิราจที่จำหน่ายในประเทศได้เป็นอย่างดี รวมทั้งจะเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยหลักที่มีส่วนสนับสนุนให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจในรถยนต์มิตซูบิชิมิราจได้มากยิ่งขึ้นนอกเหนือไปจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่เน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้สามารถส่งมอบมิราจให้กับลูกค้าได้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1.5 เดือน รวมไปถึงการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายซึ่งปัจจุบันเรามีโชว์รูมและศูนย์บริการมาตรฐาน 186 แห่งทั่วประเทศและกำลังจะขยายให้คลอบคลุมมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีการจัดทำข้อเสนอพิเศษให้กับลูกค้าที่สนใจอีกด้วย”
ในขณะที่คณะกรรมการตัดสินรางวัล Car of the Year ได้ลงมติว่า “มิราจ” เป็นรถที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของความเพียบพร้อมทั้งเทคโนโลยีและสมรรถนะตั้งแต่สถานีอัตราเร่งและสถานีทดสอบช่วงล่างและการควบคุมรถรวมไปถึงการทดสอบพิเศษในสถานีสลาลอมซึ่งมิราจให้ทั้งความคล่องตัวในการบังคับควบคุมจากระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS ผสมผสานกับระบบช่วงล่างที่แม้จะเซ็ตให้ออกมาในลักษณะนิ่มนวลเพื่อเน้นการขับขี่ที่สะดวกสบายในชีวิตประจำวันเป็นหลัก แต่ก็ยังให้การยึดเกาะถนนและการทรงตัวที่ดี ระบบพวงมาลัยยังคงตอบสนองได้อย่างเฉียบคม ขนาดวงพวงมาลัยที่กำลังพอเหมาะ ช่วยเสริมให้สามารถควบคุมได้อย่างฉับไว ส่วนน้ำหนักพวงมาลัยที่เบาตามสไตล์ของรถอีโค คาร์ นั้น ไม่มีปัญหาในการขับขี่ เพราะทั้งในความเร็วต่ำและสูงน้ำหนักที่แปรผันอยู่ในระดับที่เหมาะสมช่วยให้การควบคุมเป็นเรื่องง่ายโดยเฉพาะด่านทดสอบพิเศษสลาลอม ทั้งนี้จากคุณสมบัติความคล่องตัวเมื่อรวมกับขนาดมิติตัวถังที่สั้นกระชับทำให้การขับขี่หักหลบสิ่งกีดขวางแบบสลับฟันปลากลายเป็นเรื่องสนุกสนานไปในทันที อีกทั้งการกลับรถในที่แคบก็ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญ และโดดเด่นเหนือคู่แข่งในตลาดด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุดเพียง 4.4 ม. เท่านั้น นอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่ที่น่าประทับใจแล้ว มิราจยังตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้บริโภคในเรื่องของอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดอีกด้วย ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดเป็นสิ่งที่บ่งบอกอย่างชัดเจนในเรื่องของความคุ้มค่าที่จับต้องได้จนสามารถคว้ารางวัลรถยนต์นั่ง 5 ประตู รุ่นเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,200 ซี.ซี. มาครอง
ในภาพ : มร.ยูจิ ยามาดะ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักการตลาด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (ที่ 1จากขวา) รับมอบรางวัล “รถยอดเยี่ยมแห่งปี” จาก กิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ยืนกลาง) โดยมี นายอโณทัย เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานรถยอดเยี่ยม และรองประธาน บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ที่ 2 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดี ในงานประกาศผลรางวัลรถยอดเยี่ยม ณ ชาเลนเจอร์ ฮอล์ เมืองทองธานี เมื่อเร็วๆ นี้