กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายพันธ์ศักดิ์ เวชอนุรักษ์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดูแลสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน เปิดเผยว่าในปี 2548 สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน (Thailand Securities Institute - TSI) หรือ TSI ได้วางแผนที่จะเพิ่มความเข้มข้นในการให้ความรู้ด้านการเงิน การลงทุน และการบริหารเงินส่วนบุคคล ไปยังเยาวชน นิสิต นักศึกษา ผู้ลงทุน ประชาชนทั่วไป และบุคลากรที่ปฏิบัติงานในธุรกิจตลาดทุน ตั้งแต่ความรู้ขั้นพื้นฐานด้านการบริหารการเงินส่วนบุคคลจนถึงความรู้ด้านการเงินในเชิงลึก โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำด้านการให้ความรู้ด้านการเงินและการลงทุนผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย และหลักสูตรการให้ความรู้ที่ครบถ้วน และมีประสิทธิภาพ
“นับตั้งแต่ปี 2548 เราจะวางตำแหน่งของ TSI เป็นผู้เชี่ยวชาญในการให้ความรู้แบบครบวงจร โดยมีหลักสูตรการให้ความรู้ที่หลากหลายและครบถ้วน รวมทั้งกิจกรรมที่จะจัดร่วมกับสถาบันการศึกษาหน่วยงานพันธมิตร เป็นเครื่องมือที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายตั้งแต่เยาวชน ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษามัธยม อุดมศึกษา ประชาชน และ ผู้ประกอบวิชาชีพหลักทรัพย์ ได้มีความรู้ความเข้าใจด้านการเงินและการลงทุนได้ตรงกับความต้องการ” นายพันธ์ศักดิ์กล่าว
สำหรับหลักสูตรการให้ความรู้นั้น ยังเน้นการให้ความรู้ด้านการจัดการการเงินส่วนบุคคลแก่เยาวชนและบุคคลทั่วไปและจะเพิ่มการทำความเข้าใจกับการลงทุนในตราสารที่มีความหลากหลายและมีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งตราสารหนี้ที่จะมีบทบาทในตลาดทุนเพิ่มขึ้น ตราสารอนุพันธ์ที่จะเริ่มซื้อขายในปี 2548 กองทุนรวมประเภทต่าง ๆ รวมถึง เครื่องมือทางการเงินประเภทใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
“TSI มีเป้าหมายที่จะจัดหลักสูตรอบรมครูให้เข้าใจเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการบริหารการเงินส่วนบุคคลผ่านคู่มือการเรียนการสอน “เงินทอง ของมีค่า” ในโรงเรียน 1,300 โรงเรียนทั่วประเทศ นอกจากนั้น TSI ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาในโครงการ University Networking จัดตั้งศูนย์ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ อีก 2 แห่ง และ SET Corner ซึ่งเป็นมุมหนังสือและข้อมูลด้านตลาดทุนอีก 20 แห่ง” รองผู้จัดการกล่าว
TSI จะสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจหลักทรัพย์ได้เข้าอบรมในหลักสูตร CISA (Certified Investment and Securities Analyst Program) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นทักษะด้านการวิเคราะห์การเงินการลงทุนเพื่อผลิต นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนมืออาชีพเข้าสู่ธุรกิจหลักทรัพย์ นอกจากนี้ TSI ยังได้พัฒนาหลักสูตร ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนในหลักทรัพย์ (Modern Investment Professional program) หรือหลักสูตร MIP ซึ่งเป็นหลักสูตรระดับสูงเกี่ยวกับการ ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยสร้างพัฒนาคุณภาพให้แก่บุคลากรทุกด้านในสายอาชีพธุรกิจหลักทรัพย์และส่งผลต่อความเข้มแข็งของตลาดทุนไทยในระยะยาว
และ TSI ยังให้บริการจัดอบรม และทดสอบแก่บุคลากรในตลาดทุนเพื่อขึ้นทะเบียนใบอนุญาตซึ่งถือเป็นบทบาท หน้าที่หลัก โดยได้มีการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับโครงสร้างใบอนุญาตใหม่ที่จะเริ่มใช้ในปี 2548 นี้ อาทิ หลักสูตรตราสารอนุพันธ์สำหรับผู้ขายและผู้วิเคราะห์ และหลักสูตรสำหรับผู้จัดการเงินทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
นายพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า “TSI จะเน้นการเตรียมความพร้อมของบุคลากรในตลาดทุนให้ก้าวสู่ความเป็นมืออาชีพ และสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างทันการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรองรับตลาดใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น นอกเหนือจากความรู้และทักษะด้านการเงินและการลงทุนแล้ว ยังจะให้ความสำคัญเรื่องจรรยาบรรณและมาตรฐานการประกอบวิชาชีพสำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานในตลาดทุนด้วย” นายพันธ์ศักดิ์กล่าว
ด้านการให้ความรู้แก่ประชาชน TSI จะให้ความรู้เรื่องการบริหารการเงินส่วนบุคคล และพื้นฐานด้านการเงิน การ ลงทุน ได้แก่ หลักสูตรเงินทองต้องใส่ใจ , การลงทุนในหุ้น , การลงทุนในตราสารหนี้ , การลงทุนในกองทุนรวม , ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอนุพันธ์ แก่ประชาชนทุกระดับทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยผ่านความร่วมมือของสถาบันการศึกษาในโครงการ University Networking และเครือข่ายวิทยากรอาสา
นอกจากนี้ TSI ยังจัดโครงการส่งเสริมการจัดสัมมนาและเรียน e-Learning เพื่อองค์กรธุรกิจ หน่วยงานราชการและสถาบันการศึกษา โดยเปิดโอกาสให้องค์กรที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถนำ Courseware e-Learning ไปวางบน Server ของตนเองได้ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ผ่านการอบรม สัมมนา และเรียน e-Learning ราว 600,000 คน นอกจากนี้ TSI ยังได้พัฒนาหลักสูตรเพิ่มเติมเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ลงทุนที่ต้องการเป็นผู้ลงทุนมืออาชีพ จึงได้พัฒนาหลักสูตรการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจลงทุน และหลักสูตรเชิงลึก เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว
เพื่อให้การอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ TSI ยังมีหน่วยงานพัฒนาหนังสือและตำราที่เกี่ยวกับการเงินและการลงทุน โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์มาร่วมในการเขียน ซึ่งในปีหน้าคาดว่าจะผลิตหนังสือประเภทตำรา และสาระความรู้ใหม่ ๆ ให้เยาวชนและประชาชนผู้สนใจไม่น้อยกว่า 12 ปก นอกจากนี้ TSI ยังส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการ “ห้องสมุดมารวย” ซึ่งเป็นศูนย์รวมความรู้ที่ครบวงจร ทั้งด้านการเงิน การ ลงทุนและมุมต่าง ๆ เช่น มุมเรื่องราวตลาดหลักทรัพย์ฯ มุมหนังสือพระราชนิพนธ์ มุมสนุกรู้ สนุกคิด มุมจัดฉายภาพยนตร์ วารสารและนิตยสารฉบับปัจจุบัน พร้อมทั้งบริการสืบค้นสารสนเทศจากคอมพิวเตอร์ ได้แก่ SETSMART เป็นต้น “ห้องสมุดมารวย” เปิดให้บริการตลอด 365 วัน ตั้งแต่ 8.30 — 23.00 น.
สถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน ประกอบด้วยโครงการพัฒนาความรู้เยาวชน (Youth Education) โครงการพัฒนาความรู้ระดับอุดมศึกษา (University Education) โครงการพัฒนาความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพ (Professional Education) โครงการพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน (Investor Education) ฝ่ายสื่อสิ่งพิมพ์ งานบริหารการฝึกอบรมและการสอบ (Training and Examination Administration) ศูนย์ความรู้และข้อมูลผู้ลงทุน (Knowledge and Resource Center) หรือ “ห้องสมุดมารวย”
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037 /
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 - 2049--จบ--