กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือความร่วมมือระหว่างมูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) กับสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ โดยมีหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เสด็จเป็นประธานการประชุม ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จ.เชียงใหม่นั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้สำนักที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศทั้ง 7 แห่ง ได้แก่ และกงสุล (ฝ่ายการเกษตร) 1 แห่ง ให้การสนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ของโครงการหลวงซึ่งประกอบด้วย 5 แนวทางหลัก คือ 1.การเผยแพร่ผลงานและกิจกรรมของโครงการหลวงในต่างประเทศ 2.การขยายตลาดสินค้าโครงการหลวงในต่างประเทศ 3.ความร่วมมือด้านวิชาการเกษตรกับหน่วยงานในต่างประเทศ รวมถึงข้อมูลหลักเกณฑ์ มาตรฐานสินค้า และข้อระเบียบการนำเข้าของแต่ละประเทศ 4.การแลกเปลี่ยนนำเข้าพันธุ์ไม้ใหม่ๆ จากต่างประเทศ และ 5.การศึกษาดูงานด้านพฤกษศาสตร์
“กระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนภารกิจของโครงการหลวง ซึ่งปัจจุบันผลผลิตจากโครงการหลวงเป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยปีที่ผ่านมามีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ดังนั้น ทูตเกษตรซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงเกษตรฯ จะต้องเข้าไปมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนงานของโครงการหลวง และผลักดันสินค้าจากโครงการหลวงส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้เพิ่มขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สำนักที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง กวางโจว และเซี่ยงไฮ้ ได้มีแผนสนับสนุนด้านการวิจัย การรวบรวมพันธุ์ไม้ พันธุ์สัตว์ต่างๆ ที่จะนำมาวิจัย พัฒนา และส่งเสริมให้เกษตรกรของไทยได้นำไปใช้ประโยชน์และเพิ่มรายได้ เช่น พันธุ์ไผ่ พันธุ์แพะนมเหลาซาน พันธุ์หมูจินหัว หมูเหมยซาน รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้แก่คณะมูลนิธิโครงการหลวงและสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จะไปหารือเจรจาเพื่อหาแนวทางความร่วมมือระหว่างสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง กับมหาวิทยาลัยและเกษตรกรในจีน รวมทั้งการจัดแสดงงานพืชผัก ผลไม้ที่สำคัญๆ ในประเทศจีน เพื่อนำมาต่อยอดในประเทศไทย
ขณะที่สำนักที่ปรึกษาการเกษตรประจำสหภาพยุโรป มีแผนที่จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อให้ชาวต่างประเทศได้รับทราบว่าพระองค์ได้ทรงพระราชทานโครงการหลวงเพื่อสร้างอาชีพให้แก่เกษตรกรชาวเขาให้มีรายได้ด้วยการปลูกพืชผักเมืองหนาวทดแทนการปลูกฝิ่น รวมถึงประชาสัมพันธ์สินค้าโครงการหลวงให้กับผู้ประกอบการต่างประเทศ และหาแหล่งความรู้ เทคโนโลยีอะไรใหม่ๆ ให้กับโครงการหลวง เป็นต้น