กรุงเทพฯ--9 เม.ย.--GT Wealth Management
ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบโดยเคลื่อนไหวเหนือระดับ US$1,570(Gold Spot) ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังได้รับแรงกดดันจากความเห็นของนักลงทุนรายใหญ่อย่าง จอร์จ โซรอส ทางด้านจีนรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) เพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าระดับ 3.2% ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดทำให้ตลาดคาดหวังว่าจีนจะยังคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป การอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของค่าเงินเยนจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบแข็งกร้าวของ BOJ และจากการไหลเข้าของเงินทุนเพื่อชำระค่าซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง
บีทีเอสโกรท(BTSGIF) ส่งผลให้ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯวันนี้แข็งค่าสูงสุดในรอบ 5 ปี ที่ระดับ 28.89 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีแนวรับที่ 28.85 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลง 0.91 ตัน ที่ระดับ 1,205.31 ตัน
ดัชนี SET 50 ในวันนี้ปรับตัวค่อนข้างผันผวนโดยเปิดบวกขึ้นมาเล็กน้อยก่อนปรับลดลงในช่วงเช้าจากปัจจัยการเมืองในประเทศและสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีที่เริ่มมีผลลบมากขึ้นก่อนปรับเพิ่มขึ้นมาในช่วงบ่ายจากคำแถลงการณ์ของผู้ว่า ธปท.ว่าจะยังไม่มีการออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมเงินทุนไหลเข้าหลังจากที่เงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นมาอย่างมากในช่วงนี้ ก่อนปรับลดลงในช่วงปิดตลาด โดยปิดที่ 971.41 จุด ปิดลบ11.07 จุดโดยมีแรงขายในทุกกลุ่มหลักๆ ทั้งพลังงาน ธนาคาร และไอซีที
สรุปภาวะการซื้อขาย
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนเมษายน 2556 (GFJ13)ปิดที่ระดับ 21,710 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,194สัญญา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนเมษายน 2556 ขนาด 10 บาท (GF10J13) ปิดที่ระดับ 21,710 บาท ปริมาณการซื้อขาย 5,551สัญญา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 สิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน (S50M13) ปิดที่ระดับ 963.60 จุด ปริมาณการซื้อขาย 27,935สัญญา
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นหลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ในช่วงวันศุกร์ แต่อย่างไรก็ดีทองคำยังได้รับแรงกดดันอย่างมากจาก sentiment ในเชิงลบที่มีต่อทองคำหลังการขายอย่างต่อเนื่องของกองทุนขนาดใหญ่ ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าอีกครั้งกระทบทองคำในประเทศ
แต่เชื่อระยะกลางทองคำยังฟื้นตัวได้ เนื่องจากความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปน่าจะยังมีต่อเนื่องถึงช่วงสิ้นปี ขณะประเด็นเกาหลีเหนือคาดว่าจะไม่รุนแรงแต่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด