กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--เอสซีจี
“ความสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลจังหวัดระยองไม่เป็นเหมือนก่อน ที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำน้อยลง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของชาวประมงเรือเล็กฯ ชาวประมงจำเป็นต้องออกจากบ้านเกิด เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว”
โครงการ“หาดงามตา ปลากลับบ้าน” เกิดขึ้นโดยเอสซีจี เคมิคอลส์ ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำของไทย เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล จึงนำวัสดุที่เหลือจากกระบวนการทดสอบ(ท่อพีอี 100) มาประกอบและติดตั้งเป็น “บ้านปลาจำลอง” จำนวน 100 หลัง ทั่วจังหวัดระยอง เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ และเป็นที่หลบภัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล
นายเฑวิณฑร์ สมงาม ผู้จัดการกิจการเพื่อสังคม บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด กล่าวว่า “ปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปู ปลา ลดปริมาณลงไปมาก เนื่องจากมีผลกระทบจากหลายปัจจั ย อาทิเช่น วิธีการจับสัตว์น้ำที่ไม่ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์, การทำลายแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ, ปริมาณขยะในทะเล, การบริโภคที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น เอสซีจี เคมิคอลส์ จึงได้นำท่อ PE 100 ที่ผ่านการทดสอบจากสถาบัน VTT ประเทศฟินแลนด์ และสถาบันอื่นๆ ทั่วโลกว่าปลอดภัย ไม่มีสารเคมีปนเปื้อนออกมาสู่น้ำทะเล และมีอายุการใช้งานถึง 100 ปี มาดัดแปลงเป็นบ้านปลาจำลองทรงปิรามิด และวางบ้านปลาในตำแหน่งที่เหมาะสมในทะเล จังหวัดระยอง จำนวน 100 หลัง โดยที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้นำบ้านปลาวางที่ตำบลแกลงกะเฉด ตำบลเนินพระ และเทศบาลเมืองมาบตาพุด ไปแล้วรวม 30 หลัง ในวันนี้วางที่ตำบลพลาจำนวน 20 หลัง โดยจะวางให้ครบ 100 ภายในเดือนพฤศจิกายนศกนี้ เพื่อร่วมฉลองครบรอบ 100 เอสซีจี”
นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่1 กล่าวว่า “ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ดำเนินโครงการโดยยึดมั่นในพันธกิจที่ว่า ต้องบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์และประโยชน์ที่ยั่งยืน สร้างความสมดุลคืนสู่ทะเลไทย ซึ่งนับเป็นเจตนารมณ์เดียวกับเอสซีจีฯ ที่นำทรัพยากรที่เหลือจากกระบวนการทดสอบ มาใช้ให้เกิดประประโยชน์สูงสุด ทั้งยังช่วยลดจำนวนขยะในโลก และออกแบบมาเป็นบ้านปลาในโครงการนี้”
นายสุวัฒน์ บุญลา ปลัดเทศบาลตำบลพลา กล่าวว่า “ทะเลพื้นที่อำเภอบ้านฉางแต่ก่อน มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ เช่นปูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หลายปีผ่านมา มีความต้องการบริโภคที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้จำนวนปูลดลงเรื่อยๆ ชาวประมงจึงนิยมจับปูที่กำลังวางไข่มาบริโภค ซึ่งชาวประมงไม่ได้มีการคัดแยกปูไข่ในกระดองและนอกกระดองก่อนนำไปจำหน่าย อันเป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งส่งผลให้ปริมาณปูลดลงและขายได้ราคาไม่ดี เช่นเดียวกับปลาที่จำนวนลดลงไปด้วย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งคือ เอสซีจี เคมิคอลส์ ได้เข้ามามีบทบาทในการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นตำบลพลา โดยเริ่มตั้งแต่โครงการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ เฉลิมเกียรติ จนถึงโครงการหาดงามตา ปลากลับบ้าน ที่ช่วยให้มีปริมาณสัตว์ทะเลเพิ่มมากขึ้น และช่วยในการส่งเสริมอาชีพของกลุ่มประมงให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างสมดุลให้กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กำนันสมทรง แถวโชติ ผู้ดูแลกลุ่มประมงเรือเล็กฯพลา และพลาหัวแหลม กล่าวว่า “บ้านปลาเหล่านี้จะแสดงถึง ความสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ช่วยเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำวัยอ่อน จะได้เจริญเติบโตให้ชาวบ้านและลูกหลานได้มีอาชีพและรายได้ เพื่อเลี้ยงครอบครัวและอยู่อาศัยในบ้านเกิด โดยไม่ต้องออกไปประกอบอาชีพรับจ้างต่างหมู่บ้านหรือต่างจังหวัด”
เอสซีจี เคมิคอลส์ หวังว่า จากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในโครงการ “หาดงามตา ปลากลับบ้าน” จะช่วยพัฒนาและจัดการปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน เพิ่มพื้นที่อยู่อาศัย อนุบาล หลบภัยของสิ่งมีชีวิตในทะเล และส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากเพิ่มแหล่งทำประมง ในขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการนำวัสดุที่เหลือจากกระบวนการทดสอบ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการสูญเสียพลังงานที่ใช้ในการกำจัดทิ้ง ด้วยการนำมาสร้างเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล