กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--Vivaldi Public Relations
ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ผู้บริหารจัดการแบรนด์โรงแรมชั้นนำของเมืองไทยเผยผลประกอบการธุรกิจที่ยอดเยี่ยมในปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 14% พร้อมเผยแผนการขยายธุรกิจทั่วโลกในปี 2556 ชูแบรนด์โอโซรุกตลาดที่พักในฮ่องกงและศรีลังกา และแบรนด์อมารีเปิดตลาดในอินเดีย พร้อมนำเสนอบริการจองห้องพักแบบออนไลน์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ผลกำไรการดำเนินงานปี 2555 เติบโตกว่าสองเท่า
ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมา ออนิกซ์ฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารต้นทุนอย่างชาญฉลาดและการต่อยอดบริการที่พักในเครือ จนทำให้ผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มสูงถึง 14% ในขณะที่รายรับของธุรกิจทั้งระบบของเครือออนิกซ์ฯ พุ่งขึ้นไปที่ 12% ส่วน RevPAR (รายรับเฉลี่ยต่อจำนวนห้องพักในปัจจุบัน) เพิ่มขึ้น 8% เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ว่า 2 โครงการอมารีที่ทำรายได้ให้กับเครือสูงสุด คือ อมารี วอเตอร์เกท กรุงเทพฯ และ อมารี คอรัลบีช ภูเก็ต จะอยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุง แต่ผลการดำเนินงานของเครือออนิกซ์ฯยังคงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปีเตอร์ เฮนลีย์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป กล่าวว่า “การขยายธุรกิจและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถต่อยอดโครงการปัจจุบัน และสร้างผลกำไรได้กว่าสองเท่า โดยในปี 2556 นี้ จะเป็นอีกหนึ่งปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับเครือออนิกซ์ จากกำหนดการเปิดตัวโครงการโอโซแห่งแรกทั้งในฮ่องกง และเมืองโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ซึ่งเรามั่นใจว่าแนวคิดด้านบริการของแบรนด์โอโซจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและครองส่วนแบ่งในตลาดที่พักของเอเชียและทั่วโลกได้”
รายรับจากบริการออนไลน์และอีคอมเมิร์ซมีอัตราสูงขึ้น
ออนิกซ์ฯ มีรายรับจากบริการออนไลน์ในปี 2555 สูงขึ้นกว่า 30% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ดังนั้นในปี 2556 ออนิกซ์ฯ จะให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดียและการโฆษณาบนมือถือซึ่งเป็นสื่อที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนการผสานฟังก์ชั่นร่วมกับเครื่องมือค้นหาโรงแรมบนเว็บไซต์ทั้ง Google และ Trip Advisor ต่างมีแนวโน้มที่ดีและจะเปิดให้บริการในช่วงปลายไตรมาสแรกของปีนี้ แม้จะมีบริการออนไลน์หลายรูปแบบ แต่ออนิกซ์ฯ ยังคงเน้นบริการบนเว็บไซต์หลักเพื่อมอบบริการจองห้องพักที่คุ้มค่าและน่าประทับใจแก่ผู้บริโภค ซึ่งในปี 2556 นี้ ลูกค้าของออนิกซ์ฯ จะได้รับความสะดวกสบายทั้งจากเว็บไซต์ที่ง่ายต่อการใช้งาน เครื่องมือการจองห้องพักบนมือถือ และระบบการจองห้องพักมาตรฐานสากลจาก Trust CRS เพื่อการสัมผัสประสบการณ์ที่พักระดับโลกจากออนิกซ์ฯ
แผนการขยายธุรกิจและการพัฒนาแบรนด์ต่างๆ
ปัจจุบัน ออนิกซ์ฯ บริหารแบรนด์ที่พัก 4 แบรนด์ รวม 34 โครงการ ด้วยจำนวนห้องพักมากกว่า 5,000 ห้อง โดยออนิกซ์ฯ ยังคงดำเนินการตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปี 2553 สู่การเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่พักชั้นนำของเอเชียและมีโครงการรวม 51 แห่งภายในปี 2561 ซึ่งสำหรับปี 2556 นี้ ออนิกซ์ฯ มีกำหนดเปิดตัวโครงการแรกภายใต้แบรนด์โอโซทั้งในฮ่องกงและเมืองโคลัมโบ ศรีลังกา รวมถึงการเปิดให้บริการ อมารี ลูเดียน่า ซึ่งเป็นโครงการอมารีแห่งแรกในอินเดีย และเปิดโครงการเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ชามา หางโจว ประเทศจีน ซึ่งเมื่อรวมแล้ว จะทำให้ออนิกซ์ฯ มีโครงการที่เปิดให้บริการแล้วถึง 38 แห่ง รวมการทำสัญญาบริหารโครงการในอนาคตอีกกว่า 11 แห่ง จึงคาดว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วกว่ากำหนดอย่างแน่นอน
เปลี่ยนชื่อ เครือโอเอเอ็ม เป็น “เดอะ โมเสก คอลเลกชั่น”
ออนิกซ์ฯ เปลี่ยนชื่อ ออนิกซ์ แอสเซท แมเนจ หรือ เครือโอเอเอ็ม (Onyx Asset Managed: OAM) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการของออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ในการรับบริหารโครงการต่างๆ โดยชื่อใหม่ “เดอะ โมเสก คอลเลกชั่น (The Mosaic Collection)” หมายถึงการเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันผสานเข้ารวมกันและนำเสนอสิ่งใหม่ที่พิเศษ เสมือน ความหลากหลายของโครงการภายใต้ เดอะโมเสก คอลเลกชั่น ที่ประกอบไปด้วยโครงการที่พักระดับคุณภาพขนาดกลางและขนาดเล็กโดยยังคงชื่อและเอกลักษณ์ของโครงการเดิม ตั้งอยู่ตามสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำต่างๆ นับตั้งแต่โครงการที่พักแบบใกล้ชิดธรรมชาติในภาคเหนือไปจนถึงรีสอร์ทท่ามกลางแหล่งท่องเที่ยวของเมืองพัทยา
แบรนด์อมารีร่วมมือกับ บีบีซี เวิร์ลไวด์
ในไตรมาสแรกของปี 2556 อมารีร่วมมือกับ บีบีซี เวิลด์ไวด์ นำรายการเรียลลิตี้ทีวีโชว์ชั้นนำระดับโลก “แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์” เวอร์ชั่นไทย ออกสู่สายตาผู้ชมทั่วประเทศ โดยอมารีเป็นผู้ให้การสนับสนุนเพียงรายเดียวของรายการ ออกอากาศรวมทั้งหมด 7 ตอน นอกจากนี้ อมารียังได้จัดทำแคมเปญโฆษณาเพื่อเผยแพร่ทางโทรทัศน์ นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและประสบการณ์การพักผ่อนในอมารี โดยใช้ อมารี หัวหิน เป็นสถานที่ถ่ายทำ
การร่วมมือกับ บีบีซี เวิลด์ไวด์ ในการนำเสนอรายการ “แดนซิ่ง วิธ เดอะสตาร์” และการเผยแพร่โฆษณาโทรทัศน์นี้ ถือเป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์อมารีผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากโฆษณาตอนสุดท้ายออกอากาศ อมารีได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากตลาดภายในประเทศไทย อีกทั้งผลประกอบการของอมารีภายในประเทศยังมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555