กรุงเทพ--3 เม.ย.--สพช.
สพช. สานต่อโครงการ "รวมพลังหาร 2" หลังปีแรกได้ผลสำเร็จน่าพอใจ กระแสประหยัดพลังงานมาแรง สอดรับเศรษฐกิจทรุด ตั้งเป้าลดการใช้พลังงานและลดการขาดดุล
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) เปิดเผยว่า "รวมพลังหาร 2" หรือโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงาน ได้ดำเนินการมาเป็นเวลา 1 ปี ทำกิจกรรมต่างๆรวม 38 กิจกรรมนั้น จากการสำรวจและติดตามของ สพช. พบว่าประชาชนมีความเข้าใจมากขึ้นในเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน เข้าใจถึงผลดีของการอนุรักษ์พลังงาน และใช้พลังงานอย่างคุ้มค่ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
โครงการรวมพลังหาร 2 ใช้งบประมาณส่วนของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์นโยบายการอนุรักษ์พลังงานของประเทศ และรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันประหยัดพลังงาน อีกทั้งเป็นการสร้างจิตสำนึกให้สาธารณชนเห็นว่าการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะก่อให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้พลังงาน
"หลังจากประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจในปีที่ 1 เกิดความตื่นตัวในการใช้พลังงานอย่างถูกต้องแล้ว ในปีที่ 2 นี้ สพช. ก็จะตอกย้ำแนวทางเดิมคือ ให้สาธารณชนเห็นคุณค่าและใช้พลังงานอย่างประหยัด และในปีนี้จะเน้นไปในวิธีการและแนวทางปฏิบัติมากขึ้น สพช.จะประชาสัมพันธ์ในวิธีการง่ายๆ และทำได้ทันที เพื่อเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้นโดยเฉพาะปีนี้ประเทศไทยประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ สพช.จะเน้นให้ประชาชนเห็นว่าการประหยัดพลังงานเป็นการช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้โดยตรงด้านหนึ่งก็คือสามารถจะลดการนำเข้าน้ำมันได้จำนวนมาก" ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าว
ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ในปี 2541 นี้ สพช.มีกลยุทธ์เพื่อให้การประหยัดพลังงานเป็นกระแสหนึ่งของสังคม ด้วยวิธีการต่างๆคือ สร้างกระแสความนิยมในการอนุรักษ์พลังงานให้เกิดในวงกว้างและแรงมากยิ่งขึ้น การให้ความรู้เกี่ยวกับพลังงาน เช่น ราคาน้ำมันลอยตัว การนำเสนอวิธีในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้พลังงาน การสร้างแนวร่วมจากภาคเอกชน การนำเสนอแนวทางการอนุรักษ์พลังงานเพื่อผ่านพ้นวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจและการนำเสนอตัวอย่างความสำเร็จในการอนุรักษ์พลังงานในต่างประเทศ เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการ "รวมพลังหาร 2" ในปีที่ 2 นี้ ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ วิเศษกุล ผู้อำนวยการกองอนุรักษ์พลังงานและพลังงานทดแทน (สพช.) ได้ชี้แจงว่า กิจกรรมโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ยังคงดำเนินต่อไป แต่จะเน้นให้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงประชาชนมากขึ้น และมีภาพยนตร์โฆษณาเรื่องใหม่ๆ 4 เรื่อง ส่วนกิจกรรมส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานที่เด่นๆ เช่น การแสดงโขนรวมพลังหาร 2 การสัมมนาอาคารหาร 2 การแสดงท้องถิ่น การจัดสร้างศูนย์นิทัศน์พลังงานเพื่ออนาคต ค่ายเยาวชนอนุรักษ์พลังงาน นิทรรศการเปิดโลกพลังงาน เป็นต้น
"กิจกรรมในปีนี้ สพช. จะเน้นสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น ให้ประชาชนสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างที่เคยคิดกัน อีกอย่างหนึ่งก็จะเน้นให้ประชาชนได้เห็นว่าการใช้พลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน และไฟฟ้า นั้น ก็คือการใช้ของต่างประเทศ เพราะน้ำมันกว่า 97 เปอร์เซนต์ประเทศชาติต้องนำเข้าจากต่างประเทศ สพช.จึงอยากเห็นประชาชนได้ตระหนักในจุดนี้" ดร.พงษ์พิสิฏฐ์ กล่าว
ดร.ปิยสวัสดิ์ กล่าวอีกว่า ในปีนี้ประเทศไทยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ สพช.ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลนโยบายพลังงาน ได้ร่วมกับองค์กรของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ได้จัดทำโครงการ "ไทยช่วยไทย ร่วมใจประหยัดพลังงาน" ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกันอย่างเข้มข้นเพื่อรณรงค์ให้มีการประหยัดพลังงานอย่างเห็นผลชัดเจน จะเน้นที่การประหยัดน้ำมัน ไฟฟ้า และน้ำ ตามลำดับ โดยจะมีการทำกิจกรรมในวาระโอกาสต่างๆ งจะนำไปสู่วัน "ไทยช่วยไทยร่วมใจประหยัดพลังงาน" ในวันที่ 7 พฤษภาคม นี้--จบ--