กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--ปภ.
ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เม.ย. 56 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เกิดอุบัติเหตุ 326 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 39 ราย ผู้บาดเจ็บ 342 คน ย้ำจังหวัดคุมเข้มรถโดยสารสาธารณะ รถตู้ แอลกอฮอล์ต้องเป็น “ศูนย์” เน้นควบคุมความเร็วเป็นพิเศษ ด้าน ปภ. กำชับจังหวัดวางแผนจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ โดยรณรงค์พื้นที่เล่นน้ำปลอดแอลกอฮอล์และภัยทุกประเภท
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รองประธานกรรมการคณะกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ ประธานแถลงข่าวสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 ประจำวันที่ 12 เมษายน 2556 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2556 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เมษายน 2556 ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม” เกิดอุบัติเหตุ 326 ครั้ง (ปี 2555 เกิด 343 ครั้ง) ลดลง 17 ครั้ง ร้อยละ 4.96 ผู้เสียชีวิต 39 ราย (ปี 2555 เสียชีวิต 30 ราย) เพิ่มขึ้น 9 ราย ร้อยละ 30 ผู้บาดเจ็บ 342 คน (ปี 2555 บาดเจ็บ 375 คน) ลดลง 33 คน ร้อยละ 8.80 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เมาสุรา ร้อยละ 29.14 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.17 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.48 รถปิคอัพ ร้อยละ 11.52 พฤติกรรมเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 22.83 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 59.82 บนทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 46.63 ถนน อบต./หมู่บ้าน
ร้อยละ 30.06 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 — 20.00 น. ร้อยละ 31.60 ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มวัยแรงงาน ร้อยละ 55.90 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,340 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 67,596 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 476,651 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีตามมาตรการลดพฤติกรรมเสี่ยง 10 มาตรการ รวม 82,895 ราย โดยมีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 24,469 ราย
รองลงมา ไม่สวมหมวกนิรภัย 23,207 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช เชียงใหม่ (14 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา ยโสธร สงขลา และสมุทรสาคร (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (17 คน) มีจังหวัดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุ 10 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชัยนาท ชัยภูมิ ตราด ปัตตานี ยะลา ศรีสะเกษ สมุทรสงคราม หนองคาย และอำนาจเจริญ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) รวม 52 จังหวัด
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า วันนี้ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดช่วงเทศกาลสงกรานต์ คาดว่าประชาชนจำนวนมาก จะทยอยเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิเนา ทำให้ถนนสายหลักหลายสายมีปริมาณรถหนาแน่น จึงได้เน้นย้ำให้จังหวัดต่างๆ กำชับเจ้าหน้าที่ ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญกับรักษาชีวิตของประชาชนเป็นเป้าหมายสูงสุด
โดยจัดตั้งจุดตรวจบนเส้นทางสายหลักบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องปรามผู้กระทำผิดที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ พร้อมคุมเข้มพนักงานขับรถโดยสารสาธารณะ รถตู้โดยสารต้องมีระดับแอลกอฮอล์เป็น “ศูนย์” และควบคุมการใช้ความเร็วเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุกับรถโดยสารทุกประเภท โดยเฉพาะ รถที่วิ่งในระยะทางไกล
ได้กำชับให้นายตรวจเข้มงวดการตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถ และต้องมีพนักงานขับรถผลัดเปลี่ยน รวมทั้งขอให้จังหวัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์มาตรการการบังคับใช้กฎหมายและการจัดตั้งจุดตรวจผ่านสื่อทุกประเภท เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ ถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อสร้างความปลอดภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
ตลอดจนให้นำข้อมูลผลการปฏิบัติงานในแต่ละวัน มาวิเคราะห์สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงสำคัญ เพื่อปรับแนวทาง กำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์อุบัติเหตุ สภาพการจราจรและช่วงเวลาในการเดินทางของประชาชนในแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ ให้จังหวัดบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องเวลา สถานที่และใบอนุญาตในการจำหน่าย เพื่อควบคุมการเข้าถึงแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเมาแล้วขับ
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (วันที่ 13 เม.ย.56) หลายพื้นที่จะมีการเล่นน้ำสงกรานต์ ขอให้จังหวัด อำเภอวางแผนจัดโซนนิ่งพื้นที่เล่นน้ำให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ ลักษณะและความเป็นเมืองท่องเที่ยว
พร้อมให้ส่งเสริมวัฒนธรรมการเล่นน้ำอย่างถูกต้องตามประเพณี โดยรณรงค์พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ที่ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปลอดภัยจากภัยทุกประเภท พร้อมติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์การเล่นน้ำอย่างปลอดภัยบริเวณพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่และกำลังเจ้าหน้าที่สอดส่องดูแลและกวดขันการเล่นน้ำอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน “สงกรานต์เป็นสุข ทุกคนปลอดภัย ร่วมใจรักษาวัฒนธรรม”