กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--บ้านพีอาร์
หลักทรัพย์บัวหลวงเผยตลาดหุ้นผันผวนนักลงทุนแห่เก็งกำไร Put Warrant คาด 2-3 เดือนข้างหน้า สัดส่วนการซื้อขายเพิ่มเป็น 50-60%จากมี.ค. 56 อยู่ที่ 11% แนะเลี่ยงลงทุนPut Warrant ที่ราคาหุ้นอ้างอิงสูงกว่าราคาใช้สิทธิมากๆ พร้อมส่ง DW 24 ตัว อ้างอิงหุ้นสามัญ 13 หลักทรัพย์ซื้อขายพร้อมกัน 18 เม.ย.56
นายบรรณรงค์ พิชญากร กรรมการผู้จัดการ กิจการค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยมีความผันผวนอย่างมากจากทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ ทำให้นักลงทุนมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนในใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrant: DW) จากเดิมที่เน้นการเก็งกำไรในCall Warrant เป็นหลัก เป็นเก็งกำไรใน Call Warrant และPut Warrant ควบคู่กัน โดยจะเห็นได้จากมูลค่าการซื้อขาย Put Warrant ต่อมูลค่าการซื้อขาย DW ทั้งระบบสูงขึ้นจาก 6.1% ในเดือน กุมภาพันธ์ 2556 เป็น 11.5% ในเดือน มีนาคม 2556 ซึ่งหลักทรัพย์บัวหลวงประเมินว่า สัดส่วนดังกล่าวอาจสูงถึง 50 -60 %ภายในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า เนื่องจากคาดว่าตลาดหุ้นยังผันผวน ทำให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรมากขึ้น
ทั้งนี้ หลักทรัพย์บัวหลวงแนะนำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในPut Warrant ที่มีสถานะDeepOut of the money คือราคาหุ้นอ้างอิงสูงกว่าราคาใช้สิทธิของ Put Warrant มากซึ่งโดยปกติของ DW ประเภทนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาต่ำ เช่นน้อยกว่า 20 สตางค์ ทำให้ราคา DW ไม่ไวต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอ้างอิง กล่าวคือ หุ้นอ้างอิงจะต้องเคลื่อนไหวหลายช่องราคาจึงจะทำให้ราคา DW เปลี่ยนแปลง1 ช่องราคา ซึ่งจะไม่เหมาะกับการเก็งกำไรใน DW ที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว เนื่องจาก DW มีการเสื่อมค่าเวลาในแต่ละวันตลอดจนมีระยะเวลาจำกัดในการซื้อขาย
“ในภาวะที่ตลาดผันผวน เพื่อให้นักลงทุนสามารถจับจังหวะทำกำไรจาก DW ได้ตามที่คาดการณ์ทิศทางหุ้นอ้างอิง หลักทรัพย์บัวหลวงยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลสภาพคล่อง โดยผู้ดูแลสภาพคล่องของบริษัทจะวางจำนวนหุ้นทั้งด้านเสนอซื้อและเสนอขายใน DW แต่ละตัวในปริมาณที่มาก โดยมีความห่างของช่วงราคาเสนอซื้อและเสนอขายของ DW ส่วนใหญ่ไม่เกิน 1 ช่องราคา ตลอดจนการปรับราคาของ DW ให้สอดคล้องกับราคาหุ้นอ้างอิงตลอดเวลา จึงทำให้นักลงทุนมั่นใจในคุณภาพ DW ของเราเรื่อยมา โดยในเดือนมกราคม 2556บริษัทมีส่วนแบ่งทางการตลาดของมูลค่าการซื้อขายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกว่า68%”นายบรรณรงค์ กล่าว
นอกจากนี้ หลักทรัพย์บัวหลวง ยังเตรียมเสนอขาย DW จำนวน 24 ตัวซื้อขายวันแรกพร้อมกันวันที่ 18 เมษายน 2556 นี้ โดยเป็นประเภทCall Warrant จำนวน 12 ตัว ได้แก่ BAY01CE, BTS01CC, CPAL01CE, CPF01CE, CPN01CB, HMPR01CD, LH01CE, PS01CD, PTT01CE, ROBI01CB, THAI01CF, TRUE01CF ประเภทPut Warrant จำนวน 12 ตัว ได้แก่ BAY01PE, BTS01PB, CPAL01PE, CPF01PE, CPN01PB, HMPR01PC, KK01PA, LH01PE, PS01PC, PTT01PE, THAI01PE, TRUE01PF โดยDW ทั้งหมดจะซื้อขายได้ถึงวันที่10ตุลาคม 2556 ยกเว้น KK01PA ที่จะซื้อขายได้ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม2556
สำหรับ DW ชุดนี้มีการเสนอขาย Put Warrant ที่อ้างอิงกับหุ้นของ ธนาคารเกียรตินาคิน (KK01PA) ไปพร้อมกับ Call Warrant ในหุ้นอ้างอิงเดียวกันที่บริษัทได้เสนอขายอยู่ในปัจจุบัน (KK01CB) เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการจับจังหวะในการทำกำไรจาก DW ทั้งขาขึ้นและขาลงของหุ้นอ้างอิงดังกล่าว ซึ่งบริษัทคาดว่า KK01PA จะได้รับความนิยมจากนักลงทุนเช่นเดียวกับ Put Warrant ที่อ้างอิงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ดำเนินธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเป็นหลัก เช่น TCAP และ TISCO ที่บริษัทเสนอขายไปก่อนหน้านี้
นายบรรณรงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่าบริษัทให้ความสำคัญกับการให้ความรู้แก่นักลงทุน ตลอดจนสร้างสรรค์เครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนใน DWอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดบริษัทได้มีการเผยแพร่DW01 Newsletterที่เนื้อหาภายในมีการแนะนำ DW น่าลงทุน สรุปภาวะการซื้อขาย DW ประจำวัน และปฏิทินเหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขาย DW นอกจากนี้บริษัทยังมีการจัดสัมมนาให้ความรู้ DW แก่นักลงทุนเป็นประจำเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องในตัวผลิตภัณฑ์ โดยครั้งต่อไปบริษัทจะจัดสัมมนาให้กับนักลงทุนในวันที่ 11 พฤษภาคม 2556 ที่ห้องค้าหลักทรัพย์ชั้น 29 บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง สำนักงานใหญ่อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ เวลา 08.45 — 12.00 น. โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก www.blswarrant.com