กรุงเทพฯ--12 เม.ย.--มิตซูบิชิ มอเตอร์ส
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เยี่ยมชมหน้าความคืบหน้าโครงการ “มิตซูอิ่มใจ น้องได้อิ่มท้อง” ในจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังมอบเงินสนับสนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เผยภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ให้เด็กนักเรียนไทยได้อิ่มท้อง ตั้งใจเรียน และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ
มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงความสำเร็จของโครงการ “มิตซูอิ่มใจ น้องได้อิ่มท้อง” ในปี 2555 หลังการเยี่ยมชมความคืบหน้าของโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า “ในงบประมาณปี 2555 บริษัทฯ ได้สนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันให้โรงเรียนในเขตภาคใต้จำนวน 16 แห่ง จากจำนวน 50 แห่งทั่วประเทศ และในจำนวนนี้มีโรงเรียนในจังหวัดนครศรีธรรมราช 4 แห่ง ได้แก่ (1)โรงเรียนบ้านอายเลา อำเภอจุฬาภรณ์ (2)โรงเรียนวัดปากควน อำเภอชะอวด (3)โรงเรียนวัดทะเลปัง อำเภอหัวไทร และ (4)โรงเรียนบ้านหัวปอ อำเภอเชียรใหญ่ มีนักเรียนรวมประมาณ 320 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนซึ่งมีที่อยู่อาศัยใกล้โรงเรียน ฐานะทางครอบครัวยากจน จากการตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ พบว่าโรงเรียนแต่ละแห่งได้นำทุนสนับสนุนจำนวน 20,000 บาท ไปจัดซื้อเมล็ดพันธุ์พืช ก้อนเชื้อเห็ด พันธุ์ปลา อุปกรณ์การเกษตร และบางส่วนนำมาปรับปรุงแปลงเพาะปลูก หรือโรงเรือนเพาะเห็ดให้มีความแข็งแรง บางแห่งสามารถเก็บเกี่ยวพืชผลมาเป็นอาหารกลางวันได้แล้ว และกำลังอยู่ระหว่างรอผลผลิตในรุ่นถัดไป นอกจากนี้หลายโรงเรียนยังได้นำผลผลิตที่งอกงามเกินความต้องการ ไปจำหน่าย และมีเงินทุนกลับมาหมุนเวียนปรับปรุงโครงการเดิม หรือต่อยอดโครงการใหม่ สำหรับทุนสนับสนุนจากบริษัทฯ ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดทำกิจกรรมต่างๆ ได้คล่องตัวขึ้น นอกเหนือจากการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งอาจไม่พอเพียง ยิ่งไปกว่านั้นนักเรียนยังได้นำความรู้ไปปลูกพืชผักสวนครัวรับประทานเอง หรือประกอบเป็นอาชีพได้ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง”
ในโอกาสนี้ มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ และคณะผู้บริหารมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย พร้อมด้วย ว่าที่ รต.วัฒนา ไกรนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 และคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมความคืบหน้าของโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ณ โรงเรียนบ้านหัวปอ อำเภอเชียรใหญ่ ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีนักเรียนทั้งหมด 34 คน ครู 4 คน ทำการเรียนการสอนระดับอนุบาลถึงประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ในแต่ละวันผู้ปกครองจะผลัดกันประกอบอาหารกลางวัน มาให้นักเรียนทั้งโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอที่จะจ้างแม่ครัว โดยเงินสนับสนุนที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบให้ โรงเรียนได้นำไปปรับปรุงแปลงพืชผัก และเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วบางส่วน นอกจากนี้ มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ และคณะยังได้เป็นผู้แทน มอบอุปกรณ์เครื่องเขียน หนังสือ สิ่งของซึ่งพนักงานบริษัทฯ ได้ร่วมกันบริจาคให้กับเด็กๆ พร้อมกับถือโอกาสนี้สอนภาษาญี่ปุ่นสำหรับการสนทนาแบบง่ายๆ ให้แก่นักเรียนอีกด้วย
ด.ญ. กมลรัตน์ ไทรทองคำ หรือน้องทราย ชั้นประถมปีที่ 4 ซึ่งเป็นผู้แทนนักเรียนกล่าวขอบคุณ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส เล่าถึงความดีใจที่ได้รับการสนับสนุน ว่า”โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนเล็กๆ แต่มิตซูบิชิก็ให้ความสนใจมาช่วยเหลือพวกเรา ตอนนี้เรามีแปลงปลูกผักเพิ่มขึ้น มีผักหลายอย่าง เช่น ผักกวางตุ้ง ถั่วฝักยาว ที่กินได้แล้วตอนนี้ ทำให้เรามีกับข้าวทานอร่อยๆ มากขึ้น และได้เรียนรู้การปลูกผักหลายชนิดมากขึ้นด้วย เราสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนทุกคนค่ะ”
ด้าน ว่าที่ รต.วัฒนา ไกรนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 กล่าวถึงความต้องการรับการสนับสนุนจากภาคเอกชน ว่า “เป็นที่น่ายินดี ที่ภาคเอกชนเห็นความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อความพร้อมในการศึกษาหาความรู้ ไม่เพียงเฉพาะในตำรา แต่รวมถึงความรู้ในการดำรงชีวิตด้วย โรงเรียนทั้ง 4 แห่งที่ได้รับคัดเลือกในปีนี้ เป็นโรงเรียนที่มีความขาดแคลนอย่างแท้จริง เด็กๆ มาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ก็มีความขวนขวายที่จะหาความรู้ รวมถึงได้รับความร่วมมือจากชุมชนในการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เมื่อได้รับความช่วยเหลือด้านทุนทรัพย์จากมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ก็ทำให้องค์ประกอบในการพัฒนาโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มีความสมบูรณ์ ผมดีใจที่ได้เห็นสีหน้าแห่งความสุขของนักเรียน และชาวบ้านที่มาร่วมงานในวันนี้ ผมหวังว่าหลังจากที่มิตซูบิชิได้มอบเงินสนันสนุนครบทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว จะย้อนกลับมาช่วยเหลือโรงเรียนที่ยังขาดแคลนแห่งอื่นๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกครั้งนะครับ”
“วันนี้เราได้เห็นความกระตือรือร้นที่เด็กๆ ที่มาให้การต้อนรับพวกเรา รวมถึงพูดคุยถึงกิจกรรมการเพาะปลูกของพวกเขาแล้ว ทำให้ทีมงานมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ได้อิ่มท้อง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี แม้พวกเขาจะไม่มีความพร้อมทางด้านวัตถุ แต่ก็มีจิตใจที่ดีและตั้งใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เราได้ตระหนักว่าแนวคิดที่จะสร้างประโยชน์ให้สังคมผ่านโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันนี้ เป็นแนวคิดที่ถูกต้อง และเรายืนยันที่จะสานต่อโครงการนี้ ต่อไป” มร.มูราฮาชิ กล่าวในตอนท้าย
โครงการ ”มิตซูอิ่มใจ น้องได้อิ่มท้อง” ริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการจัดทำแปลงเกษตร หรือเลี้ยงสัตว์ เพื่อนำมาประกอบอาหารโดยเฉพาะอาหารกลางวัน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการถ่ายทอดความรู้และพัฒนาองค์ความรู้ด้านเกษตรกรรมระหว่างครู นักเรียน และผู้ปกครอง ก่อให้เกิดความร่วมมือและความเข้มแข็งขึ้นในชุมชน และสามารถพึ่งพาตนเองได้ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยในแต่ละปี บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด จะคัดเลือกโรงเรียน 50 แห่งที่มีการจัดทำโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันอยู่แล้ว แต่ยังมีความขาดแคลนทุนทรัพย์หมุนเวียน เพื่อรับทุนสนับสนุนโรงเรียนละ 20,000 บาท มอบผ่าน กพฐ.สำหรับปี 2555 บริษัทฯ ได้มอบทุนสนับสนุนมาถึงจำนวน 150 แห่งแล้ว จาก 41 จังหวัดทั่วประเทศ