กรุงเทพฯ--26 ส.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
ท่ามกลางกระแสที่มาแรงของงาน Bangkok Fashion Week 2005 ที่มีดีไซเนอร์รุ่นเก่า ฝีมือเก่งกาจหลายคน หอบผลงานมาโชว์มากมาย โนเกีย ในฐานะผู้นำการสื่อสารไร้สายของโลก ที่ให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ การออกแบบและแฟชั่น ซึ่งร่วมเป็นผู้สนับสนุนหลักของงาน ได้ร่วมสร้างสีสัน ให้กับแวดวงแฟชั่นเมืองไทย ด้วยการเปิดโครงการ We Cross ขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่มาแสดงความสามารถ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะแบบข้ามพรมแดนของตน จำนวน 30 คน โดยได้มีการเปิดตัวกลุ่ม We Cross 5 คนแรก ได้แก่ ปอม จิตรประทักษ์, ปฤษฐ ชุมสาย ณ อยุธยา, พรประภา โกศลประเสริฐผล, พรทวีศักดิ์ ริมสกุล และ ณัฐวุฒิ เลื่อนไทยสง ณ แพลนนารี่ ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
มร. บ็อบ แมคดูกอล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “We Cross เป็นโครงการที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักออกแบบและสร้างสรรค์งานศิลปะ หน้าใหม่ในแขนงต่าง ๆ มาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานแบบไร้ขอบเขต และข้ามพรมแดนของตน มาร่วมกันสร้างงานในมุมมองใหม่ ที่ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสาขาของตนเอง เช่น นักออกแบบเสื้อผ้า ทำงานมัณฑนศิลป์, นักออกแบบเครื่องประดับ มาดีไซน์การตกแต่งอาหาร, หรือนักออกแบบรองเท้า คิดออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ภายใต้แนวความคิดที่ว่า ศิลปะไม่มีพรมแดน ศิลปิน ดีไซเนอร์ หรือนักสร้างสรรค์ทุก ๆ สาขา สามารถเชื่อมโยงสื่อสาร ตลอดจนแลกเปลี่ยนทัศนะในการทำงานซึ่งกันและกันได้ เพื่อเป็นการกระตุ้นแนวความคิดใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่นและงานสร้างสรรค์ ซึ่งโนเกีย ก็มุ่งมั่นที่จะพัฒนาให้เกิดการสื่อสารและสร้างสรรค์ ในทุกรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด ดังสโลแกนของโนเกีย ที่ว่า Nokia Connecting People”
We Cross เป็นโครงการที่เริ่มต้นกิจกรรม ในงาน Bangkok Fashion Week 2005 และสร้างความต่อเนื่องจนบรรลุเป้าหมาย เพื่อโชว์ผลงานคลื่นลูกใหม่ ในงาน Bangkok Fashion Week 2006 โดยเริ่มจากการเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงในแวดวงแฟชั่นและศิลปะ 5 คน มาเป็นคณะกรรมการเบื้องต้น เพื่อคัดเลือกนักออกแบบ และผู้ที่จะสร้างงานศิลปะ สำหรับแสดงในงานบางกอกแฟชั่นวีค 2006 โดยคณะกรรมการทั้ง 5 ท่านได้แก่ ประธาน ธีระธาดา บรรณาธิการนิตยสาร Art 4D, จิตต์สิงห์ สมบุญ ดีไซเนอร์เสื้อผ้า, วินัย ฉัยรักพงศ์ นักออกแบบนิทรรศการ,ทวีศักดิ์ ศรีทองดี ศิลปินและนักวาดภาพประกอบ, วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ ศิลปินด้าน visual graphic ซึ่งคณะกรรมการได้ทำการคัดเลือกกลุ่มแรกมาแล้ว 5 คน จากนั้นกลุ่มแรกจะทำหน้าที่เฟ้นหานักออกแบบและผู้สร้างผลงานศิลปะต่อไปเป็นทอด ๆ จนได้ครบ 30 คน หลังจากนั้นกลุ่ม We Cross ทั้ง 30 คน จะเข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันและกัน และเริ่มต้นสร้างสรรค์ผลงานของตน ซึ่งจะนำมาจัดแสดง ต่อไป
ในเวทีเปิดตัวกลุ่มวี ครอส 5 คนแรก ได้มีการพูดคุยถึงโครงการ วี ครอส ที่เกี่ยวเนื่องกับกระแสแฟชั่นในแวดวงบ้านเรา และงานศิลปะที่ไร้พรมแดนที่อยากจะสร้างสรรค์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดย ณัฐวุฒิ เลื่อนไทยสง นักออกแบบปฏิสัมพันธ์ (Interaction Designer) 1 ในผู้ได้รับคัดเลือก กล่าวว่า “โครงการ วี ครอส ทำให้เรามีมุมมองใหม่ ที่อาจจะมองสิ่งเดียวกัน แต่อาจจะต่างมุม และอาจจะได้ไอเดียใหม่มาใช้ในการทำงาน และจะได้ผลงานที่แตกต่างและเด่นออกไปอีกแบบ ซึ่งผลงานที่จะนำเสนอ จะทำอะไรที่ถนัด เอาจุดเด่นที่เราถนัดทำออกมาเป็นงาน คือ จะทำงานศิลปะที่ทำมาจากสมการ โดยได้แรงบัลดาลใจจากเกมส์ คอมพิวเตอร์ มาสร้างสรรค์ผลงานแฟชั่นเสื้อผ้า เช่นเลโก้ยักษ์ คล้ายโดมิโน คือ เราจะใส่เสื้อครึ่งบนสีขาว ครึ่งล่างสีดำ และเราก็เลือกเดินไปชนกับคนที่มีเสื้อผ้าสีเดียวกับเราไปเรื่อย ๆ เป็นการคำนวนการสร้างภาพออกมา เหมือนการเล่นเกมส์ ที่มีความปฏิสัมพันธ์กัน ส่วน พรทวีศักดิ์ ริมสกุล นักออกแบบนิทรรศการ และอาร์ทติส ที่ก้าวเข้ามาร่วมเป็น 1 ในโครงการวี ครอส เผยว่า “ศิลปินที่ทำงานศิลปะในบ้านเราจะมีความแข็งแรง ในด้านความเป็นตัวของตัวเองสูงมาก ซึ่งดีมากที่มีเวทีรองรับคนเหล่านี้ ผลิตงานออกมาให้กับวงการ โดยส่วนตัวอยากจะลองเปลี่ยนตัวเองเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันของเราจริงๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ โดยอยากออกแบบโคมไฟที่อาจไม่มีไฟก็ได้”
ปฤษฐ ชุมสาย ณ อยุธยา สถาปนิกและดีเจ ที่ก้าวมาทำงานด้านแฟชั่นและศิลปะในโครงการ วี ครอส กล่าวว่า “ดีใจที่ได้เข้ามาร่วมในโครงการนี้ ทำให้ได้รู้จักกับผู้สร้างสรรค์ผลงานรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะเดิมจะรู้จักแต่กับคนรุ่นเก่า ๆ ให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่มีแนวคิดที่ไม่แพ้กันเลย ซึ่งผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาจะมีลักษณะที่เปิดกว้างมากขึ้น อยากทำงานที่แตกต่าง โดยนำแรงบันดาลใจมาจากงานศิลปะทุกแนว มาสร้างหนัง ทำเพลงเป็น Multi Media เนื่องจากมีอิสระทางความคิด และเป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนกับ การเป็นสถาปนิกที่จะมีข้อจำกัดเยอะ ด้าน ปอม จิตรประทักษ์ Illustrator วัยละอ่อน ที่มีความสามารถในการวาดภาพด้วยมือ งานที่รายละเอียดเยอะ และคอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ ซึ่งผลงานที่โดดเด่นของเขาคือ การใช้ลายเส้น เป็นคนทำงานรุ่นใหม่ ที่ทำงานเหมือนคนสมัยก่อน ที่มีทักษะในการทำงานสูง ซึ่งต่างจากปัจจุบัน แฟชั่นใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน กล่าวถึงโครงการ วี ครอส ว่า “โครงการนี้ รู้สึกว่าน่าสนุกดี กับการที่เป็นนักศิลปะ แล้วก็มาเป็นนักออกแบบ เป็นสิ่งที่ท้าทายมาก ผลงานที่อยากจะทำตอนนี้อยากทำงานที่เป็นสามมิติ เนื่องจากปัจจุบันจะสร้างสรรค์ผลงานสองมิติที่สามารถสัมผัสได้ด้วยตา แต่ก็อยากจะทำเป็นหุ่นปั้นที่สามารถจับต้องได้จริง ๆ”
และสาวน้อยคนนี้ พรประภา โกศลประเสริฐผล แฟชั่นดีไซเนอร์ สดใหม่ จากรั้วการศึกษา กล่าวถึงวงการแฟชั่นในเมืองไทยว่า “ยังเป็นอะไรที่แคบ คนเก่งมีฝีมือเยอะ แต่ไม่ค่อยได้เห็นดีไซเนอร์รุ่นใหม่นำผลงานมาโชว์เท่าไร โครงการวี ครอส จึงเป็นโอกาสของตัวเองที่จะก้าวเข้ามาโชว์ฝีมือ โดยในครั้งนี้จะนำจุดเด่นของตัวเอง คืออะไรก็ได้ที่ขัดกับบุคลิกที่เป็นอยู่ อย่างที่เห็นก็คือ เราจะเป็นผู้หญิงที่สดใส ร่าเริง แต่จะเปลี่ยนมาทำอะไรที่ขัดกับตัวเอง มาเป็นไอเดียในการทำผลงานด้านฟู้ดดีไซน์ ทำอาหารที่ดูเหมือนกินไม่ได้แต่กินได้ ออกแนวสีทึม ๆ ซึ่งจริงๆ แล้วก็ชอบและอยากทำงานที่ตรงกันข้ามอยู่แล้ว”
We Cross ไม่เพียงแต่จะสร้างประสบการณ์ที่สดใหม่ให้กับนักสร้างสรรค์ หากผู้ชมก็ยังได้พบกับรูปแบบที่แตกต่างจากการนำเสนอผลงานของคนรุ่นใหม่ ที่เป็นอนาคตของวงการสร้างสรรค์ของไทย ทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจ สำหรับทุกคนในการก้าวออกจากพื้นที่อันจำกัดของตน ไปสู่โลกที่เปิดกว้าง ไร้ขอบเขต ในบทสรุปสุดท้ายของโครงการนี้ ท่านจะได้พบกับการแสดง We Cross “Therefore We Are” ซึ่งเป็นการแสดงผลงานชุดพิเศษ ของกลุ่ม We Cross ในงาน Bangkok Fashion Week 2006 ในปีหน้า ที่จะถึงนี้
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
บริษัท แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์ จำกัด โทร. 0-2434-8300
สุจินดา, แสงนภา, ชลธิชา
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--