มิติใหม่กรมป่าไม้เสริมศักยภาพชุมชนในการป้องกันรักษาป่า

ข่าวทั่วไป Wednesday April 17, 2013 12:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--กรมป่าไม้ จากสถานการณ์ปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของประเทศลดน้อยลงอย่างน่าวิตก หากปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จะเกิดภัยพิบัติที่ไม่คาดหวังทางธรรมชาติขึ้น อันส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตโดยตรง แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ และสายพระเนตร อันยาวไกลของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงตระหนักถึงปัญหาและทรงมีเมตตาธิคุณแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พระองค์ทรงมีพระราชดำริในการจัดตั้ง โครงการฝึกอบรมราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) โดยเป็นการคัดเลือก หมู่บ้าน/ชุมชน ที่ให้ความร่วมมือ ในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ให้มีสภาพอุดมสมบูรณ ์ไม่มีการลักลอบตัดไม้ ทำลายป่า ซึ่งทำการคัดเลือก โดยคณะอนุกรรมการ ดำเนินโครงการธง "พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต" แล้วทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อขอพระราชทานธง "พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต" ให้กับชุมชน ลักษณะของธง จะปรากฏภาพช้าง อยู่ในป่าอยู่ภายใต ้พระปรมาภิไธยย่อ สก นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรมป่าไม้ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ของประเทศมีภารกิจหลักในการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ บำรุงรักษาและการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ ในการคุ้มครองส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และจากสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ ในปัจจุบัน กรมป่าไม้ดูแลพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 1,221 ป่า เนื้อที่ 67.7 ล้านไร่ ยังมีการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยมีกลุ่มนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง จนสภาพป่าไม้หลายแห่งอยู่ในภาวะวิกฤต คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2553 เห็นชอบแผนยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอ โดยมีพื้นที่วิกฤต จำนวน 198 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 30 จังหวัดทั้งประเทศ รวมพื้นที่ป่า 37,000 ไร่ ปัญหาเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขตลอดจนเฝ้าระวัง ไม่ให้มีการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า โครงการราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า หรือ รสทป. เป็นโครงการตามแนวพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระราชประสงค์ให้เปลี่ยนแปลงทัศนคติของราษฎรจากผู้บุรุกเป็นผู้ดูแลรักษาและใช้ประโยชน์จากป่าอย่างยั่งยืนซึ่งน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการหยุดยั้งการทำลายป่า ในส่วนการดำเนินโครงการดังกล่าวกรมป่าไม้ได้ร่วมสนับสนุนทั้งในด้านงบประมาณและได้นำโครงการฝึกอบรม รสทป. นี้มาขยายผลการดำเนินงานไปทั่วประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ภายใต้ความร่วมมือและการประสานงานอย่างใกล้ชิดของกองทัพภาคทุกภาคและสำนักงานป่าไม้ทุกเขตจวบจนถึงปัจจุบัน และมีการดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง และมีราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.)เข้ารับการอบรม แยกเป็นภูมิภาค ดังนี้ ภาคกลาง จำนวน 143 รุ่น 13,830 คน ภาคใต้ จำนวน 155 รุ่น 15,915 คน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 600 รุ่น 63,648 คน ภาคเหนือ จำนวน 326 รุ่น 32,584 คน การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จำนวน 125 รุ่น 14,293 คน รวมทั้งสิน 1,349 รุ่น 140,273 คน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อถ่ายทอดพระราชปณิธาน และความห่วงใยในพสกนิกร ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ แก้ราษฎรในพื้นที่ให้มีความเข้าใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่วมกันดูแลรักษาป่าเพื่อถวายเป็นพระราชสักการะ เพื่อสร้างจิตสำนึกร่วมกันของราษฎรในพื้นที่ รวมถึงเพื่อจัดตั้งองค์กรราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) ในชุมชนที่อยู่ในและรอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเพื่อเป็นเครือข่ายในการป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว. ปัญหาเรื่องป่าไม้ เป็นปัญหาระดับชาติที่ทุกคนจะต้องร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะผลเสียจากการตัดไม้ทำลายป่าที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อทุกคนในสังคม “พันธกิจของผู้พิทักษ์” จึงมิใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หากแต่ถึงเวลาแล้วที่พวกเราทุกคนทุกฝ่าย ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน จะต้องร่วมมือ ร่วมใจ ผนึกกำลังกันต่อสู่กับปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่งคั่ง มั่งคงให้เศรษฐกิจของประเทศ และนำความร่มเย็นเป็นสุขมาสู่ผืนแผ่นดินและพี่น้องชาวไทยอย่างยั่งยืน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ