กรุงเทพฯ--17 เม.ย.--บลจ.ยูโอบี
บลจ.ยูโอบี นำเสนอการลงทุนแบบสมดุล กับ กองทุนเปิด ยูโอบี บาลานซ์ ทริกเกอร์ ฟันด์ 1 (UOBBT1) กองแรกในประเทศไทยที่มีกลยุทธ์แบ่งครึ่งพอร์ตลงทุนหุ้นไทยและตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยอัตราส่วนที่เท่ากัน* โดยตั้งเป้าหมายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย (หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของมูลค่าหน่วยลงทุน) ภายในระยะเวลา 1 ปี เสนอขายครั้งแรกและครั้งเดียว 17 — 26 เมษายน 2556
นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี (ไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า “UOBBT1 เป็นกองทุนที่จะช่วยนักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อกระจายไปยังหุ้นไทยและตราสารหนี้ โดยบลจ.ยูโอบี ได้พิจารณาถึงโอกาสการลงทุนที่ยังมีปัจจัยเศรษฐกิจสนับสนุนทั้งสองสินทรัพย์”
เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2556 ขับเคลื่อนโดยภาคการผลิตและการบริโภคภายในประเทศ การลงทุนจากภาครัฐจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในการเติบโตของเศรษฐกิจ คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะยังคงเติบโตได้ในระดับ 18-19% ในปี 2556 อีกทั้งเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงจีนเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับบลจ.ยูโอบี มีมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากสามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนได้มากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศเพียงอย่างเดียว โดยเราได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อลดความผันผวนของค่าเงินอีกด้วย
*กองทุนเปิด ยูโอบี บาลานซ์ ทริกเกอร์ ฟันด์ 1 (UOBBT1) เป็นกองทุนผสมที่ไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ซึ่งมีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Mixed Fund) โดยผู้จัดการกองทุนมีกลยุทธ์บริหารกองทุนด้วยการประมาณการลงทุนในตราสารทุนไทย 50% และอีก 50% ของมูลค่าทรัพย์สินกองทุนสุทธิที่เหลือจะลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีอัตราผลตอบแทนเป้าหมายที่ 6% ในระยะเวลา 1 ปี จึงเหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และรับความผันผวนของตลาดหุ้นได้บ้าง
นายวนา พูลผล ได้กล่าวเพิ่มเติมในตอนท้ายว่า “กองทุนนี้เป็นการผสมผสานการลงทุนของทั้งสองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่างกันให้เกิดความสมดุล เพื่อให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ระดับปานกลาง ได้ลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงต่ำเพียงอย่างเดียว”
โดยท่านสามารถปรึกษาการลงทุนได้ที่ธนาคารยูโอบี ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนอื่นๆ ที่บลจ. แต่งตั้ง หรือ งานบริการผู้ถือหน่วยของ บลจ. ยูโอบี (ไทย) โทร. 0-2676-7200 อีเมลล์ wealthservice@uobam.co.th
บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน เท่ากับมูลค่าทรัพย์สินคงเหลือทั้งหมด หลังจากหักค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายใดๆ แล้ว หากเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้
(1) มูลค่าหน่วยลงทุนมากกว่าหรือเท่ากับ 10.70 บาทต่อหน่วย ณ วันทำการที่บริษัทจัดการกำหนด* และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสด และ/หรือเงินฝาก และ/หรือทรัพย์สินอื่นใดที่เทียบเท่าเงินสดทั้งหมด และ
(2) มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนอัตโนมัติให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ณ วันทำการใดถัดจากเหตุการณ์ตามเงื่อนไข (1) ไม่ต่ำกว่า 10.60 บาทต่อหน่วย โดยกองทุนรวมจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่เกิดเหตุการณ์ (1) ดังกล่าว
หากภายในระยะเวลา 1 ปีนับจากวันจดทะเบียน ไม่เกิดเหตุการณ์ที่มูลค่าหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้นจนเป็นเหตุให้เลิกกองทุนตามเงื่อนไขข้างต้น บริษัทจัดการจะเปิดให้มีการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติทุกๆ 3 เดือนโดยประมาณนับตั้งแต่วัน
ทำการถัดจากวันที่กองทุนมีอายุโครงการครบ 1 ปี ซึ่งบริษัทจัดการจะประกาศวันทำการที่บริษัทจัดการกำหนด* ให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน ทางเว็บไซต์ของบริษัทจัดการ
หมายเหตุ :
ณ วันที่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทั้งหมด ผู้ถือหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินตามมูลค่าหน่วยลงทุนอันเนื่องจากมูลค่าหน่วยลงทุนนั้นอาจจะถูกหักด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการดังกล่าว (ถ้ามี)
*วันทำการที่บริษัทจัดการกำหนด คือ วันที่บริษัทจัดการจะพิจารณาว่ามูลค่าหน่วยลงทุนมีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.70 บาทต่อหน่วยหรือไม่ โดยวันดังกล่าวจะห่างกันทุกๆ 3 เดือนโดยประมาณ และบริษัทจัดการจะประกาศให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน ทางเว็บไซต์ของบริษัทจัดการ
คำเตือน การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายการลงทุน ความเสี่ยงและผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
บลจ.ยูโอบี (ไทย) จำกัด คู่คิดแห่งความมั่งคั่ง