กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
“ยุทธพงศ์” เร่งพัฒนาหมอดินอาสาและเกษตรกร เพื่อเคลื่อนการดำเนินงานเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ หวังให้เกษตรกรปลูกพืชตามความเหมาะสมของดินและสภาพพื้นที่ ให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และลดต้นทุนการผลิต
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมการพัฒนาหมอดินอาสาและเกษตรกรเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ ณ ศูนย์การศึกษาและฝึกอบรมนานาชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่ ว่า สืบเนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดแผนงานและยุทธศาสตร์ให้มีการปรับรูปแบบการส่งเสริมการเกษตรแนวใหม่ โดยให้ทุกหน่วยงานได้ส่งเสริม สร้างอาสาพัฒนาการเกษตร ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการเกษตรในรูปแบบ Green Economy และ Zero waste agriculture มีการทำงานแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการกำหนดแผนเชิงรุกเพื่อพัฒนาเกษตรกรโดยใช้ข้อมูลด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกอบในแผนการพัฒนา ทั้งนี้เพื่อให้เกษตรกรและสถาบันการเกษตรมีความเข้มแข็ง และสร้างความสามารถการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกผู้ส่งออกอาหารสูงสุดเป็น 1 ใน 10 ของโลก และยังสามารถผลิตได้เป็น 4 เท่าของปริมาณความต้องการบริโภคในประเทศด้วย การกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ (Zoning) และการพัฒนาเกษตรกรสู่ Smart Farmer จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องขับเคลื่อนนโยบายแผนงานโครงการให้สำเร็จเป็นรูปธรรมต่อไป
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อไปว่า การกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ จะมีการวิเคราะห์ความเหมาะสมของที่ดิน คุณสมบัติของดินร่วมกับความต้องการธาตุอาหารของพืชแต่ละชนิด ตามสภาพที่มีการเพาะปลูกพืชร่วมกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น แหล่งน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั่วไป เพื่อประกอบการกำหนดเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจในแต่ละชนิด ซึ่งประโยชน์ที่จะได้จากการบริหารจัดการการใช้ที่ดินของประเทศจะทำให้เกษตรกรลดต้นทุนจากการทำการเกษตร เนื่องจากปัจจัยการผลิตได้ถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด ทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นและมีคุณภาพสูง เกษตรกรมีโอกาสในการเลือกพืชที่ปลูกตามความเหมาะสมของดินและสภาพพื้นที่ ดังนั้น เมื่อสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพร่วมกับการพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็น Smart Farmer จึงเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี มีการใช้ประโยชน์จากที่ดินได้เต็มศักยภาพ ลดการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตร ซึ่งจะนำไปสู่การยกระดับความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรของประเทศอีกด้วย
“โครงการฝึกอบรมการพัฒนาหมอดินอาสาและเกษตรกรเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเขตเหมาะสมสำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจจังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะทำให้หมอดินอาสาและเกษตรกรทราบถึงแนวทางและนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมพัฒนาที่ดินในการดำเนินงานปีงบประมาณ 2556 แล้ว ยังได้ทราบแนวทางการปฏิบัติสู่การเป็น Smart Farmer ตลอดจนเป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ของหมอดินอาสา ให้สามารถดำเนินงานและเผยแพร่งานของกรมพัฒนาที่ดินสู่เกษตรกรรายอื่นในพื้นที่ต่อไปได้อย่างทั่วถึง” นายยุทธพงศ์ กล่าว