กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รายงานการสำรวจของกรีนพีซได้เปิดเผยถึงการลักลอบทิ้งน้ำเสียอุตสาหกรรม ซึ่งปนเปื้อนสารพิษและสารเคมีอันตรายหลายชนิดลงสู่แม่น้ำซิตารัม (Citarum River) ในจังหวัดชวาตะวันตก เสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์ดังระดับโลก อาทิ แก๊ป (Gap) บานาน่า รีพับบลิค (Banana Republic) และโอลด์นาวี (Old Navy) มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อมลพิษนี้โดยการจ้างผลิตสินค้าผ่าน พีทีจิสเท็กซ์กรุ๊ป (PT Gistex Group) โรงงานสิ่งทอที่ก่อมลพิษในอินโดนีเซีย “โฆษณาชิ้นล่าสุดของแก๊ป (Gap) ประกาศว่า แก๊ปจะเป็นแบรนด์ที่ ‘สดใส (Be Bright)’ แต่จากกระบวนการผลิตที่เต็มไปด้วยสารเคมีอันตราย เสื้อผ้าแก๊ปทำให้แม่น้ำซิตารัมกลายเป็นแม่น้ำสีสกปรก แก๊ปและแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำต่างๆ ต้องร่วมมือกับผู้ผลิตทั้งในอินโดนีเซียและที่อื่นๆ ในการยกเลิกการใช้สารเคมีอันตรายในกระบวนการผลิตสินค้าโดยทันที ก่อนที่มันจะสายเกินแก้” อาสพ เบอร์รี่ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ ประจำประเทศอินโดนีเซีย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
รายงาน ‘สารพิษในเส้นใย: สวรรค์สำหรับการก่อมลพิษ (Toxic Threads: Polluting Paradise)’ เผยถึงรายละเอียดวิธีการที่โรงงานของพีทีจิสเท็กซ์กรุ๊ปใช้ประโยชน์จากกฎหมายด้านการจัดการอุตสาหกรรมของประเทศกำลังพัฒนาที่หละหลวม ไม่มีการรายงานข้อมูลอย่างโปร่งใส และไม่มีมาตรการควบคุมการปล่อยสารเคมีอันตราย ทั้งนี้พบว่า บริษัทเสื้อผ้าที่เกี่ยวข้องกับพีทีจิสเท็กซ์กรุ๊ป นอกจากแก๊ปแล้ว ยังรวมถึง มารูเบนิคอร์ปอเรชั่น (Marubeni Corporation) อาดิดาส (Adidas Group) เอช แอนด์ เอ็ม (H&M) และบรู๊คส์ บราเธอร์ส (Brooks Brothers) ซึ่งเป็นแบรนด์เสื้อผ้าที่ผลิตเครื่องแต่งกายให้กับประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา 39 คน จากทั้งหมด 44 คน และหนึ่งในนั้นคือ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา
จากการวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำทิ้งที่ไหลลงสู่ทะเลของโรงงานพีทีจิสเท็กซ์กรุ๊ป พบสารเคมีอันตรายมากมาย อาทิ สารโนนิลฟีนอล และสารไตรบิวทิลฟอสเฟต สารเคมีเหล่านี้เป็นสารพิษ บางชนิดมีผลกระทบต่อระบบการทำงานของฮอร์โมน และเป็นสารเคมีที่ตกค้างยาวนานมากในสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังพบว่า น้ำเสียจากหนึ่งในบรรดาท่อน้ำทิ้งขนาดเล็กของโรงงานนี้มีความเป็นด่างสูง (ค่า pH 14) ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรง นี่แสดงให้เห็นว่า น้ำเสียจากโรงงานไม่ได้รับการบำบัดน้ำเสียเบื้องต้นใดๆ ทั้งสิ้นก่อนถูกปล่อยออกสู่แหล่งน้ำสาธารณะ
“ประชาชนที่อาศัยตามริมแม่น้ำซิตารัมและพึ่งพาน้ำดื่มน้ำใช้จากแม่น้ำสายนี้มีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ถูกปล่อยลงสู่แม่น้ำ และเช่นเดียวกัน ลูกค้าของแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำอย่างแก๊ป (Gap) ก็มีสิทธิที่จะรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตเสื้อผ้าของพวกเขาด้วย” อาสพ กล่าวเพิ่มเติม
“อุตสาหกรรมสิ่งทอเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ก่อมลพิษทางน้ำ เสื้อผ้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น แก๊ป อาดิดาส
บานาน่า รีพลับบลิค ได้รับความนิยมมากเช่นกันในประเทศไทย ดังนั้น ผู้บริโภคชาวไทยก็ควรมีสิทธิได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่ และต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของแฟชั่นที่ก่อมลพิษโดยไม่รู้ตัว” เบญจจรัส วัฒนาพิเชษฐพงศ์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านมลพิษ ประจำประเทศไทย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว
โครงการรณรงค์ ‘ล้างสารพิษ’ หรือ Detox ของกรีนพีซได้รณรงค์เรียกร้องต่อแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ เพื่อให้คำมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย ‘การปล่อยมลพิษเป็นศูนย์’ ภายในปี พ.ศ. 2563 และทำงานร่วมกับผู้ผลิตของตนในการเปิดเผยข้อมูลการปล่อยสารเคมีอันตรายลงสู่แหล่งน้ำต่อสาธารณะ โครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 โดยปัจจุบันมี 17 แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ เช่น
วาเลนติโน (Valentino) ลีวายส์ (Levi’s) และ ซาร่า (Zara) เข้าร่วมโครงการ จากความเชื่อที่ว่า “ความงามของแฟชั่นไม่จำเป็นต้องทำลายโลก” จนถึงขณะนี้มีนักกิจกรรม ผู้นำแฟชั่น บล็อกเกอร์ และนักออกแบบเสื้อผ้า เข้าร่วมสนับสนุนโครงการนี้มากกว่า 500,000 คน