กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ทริสเรทติ้ง
ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A-” พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “A-” เช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนหนี้และขยายกิจการ
ทริสเรทติ้งยังปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์เป็น “Stable” หรือ “คงที่” จาก “Negative” หรือ “ลบ” ซึ่งสะท้อนถึงการมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นของบริษัท และความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับการฟื้นตัวของยอดขายในโครงการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยเนื่องจากความหลากหลายของสินค้าของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานที่ยาวนานของบริษัทในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสถานะที่แข็งแกร่งในตลาดบ้านจัดสรรระดับราคาปานกลางถึงสูง และความยืดหยุ่นทางการเงินจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง รวมถึงแรงกดดันจากต้นทุนก่อสร้างและแรงงานที่ขาดแคลน ตลอดจนภาระหนี้ที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงต่อไปในระยะปานกลาง
แนวโน้มอันดับเครดิตที่ปรับเปลี่ยนมาเป็น “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงสถานะทางการเงินที่ดีขึ้นของบริษัทและความกังวลที่ลดลงเกี่ยวกับการฟื้นตัวของยอดขายในโครงการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตอุทกภัยเนื่องจากบริษัทมีสินค้าที่มีความหลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ แนวโน้มดังกล่าวยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ในระยะปานกลางโดยจะมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 55%
บริษัทควอลิตี้ เฮ้าส์ก่อตั้งในปี 2526 ปัจจุบันบริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทย กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท ณ เดือนเมษายน 2556 ประกอบด้วย บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (25%) และThe Government of Singapore Investment Corporation Pte. Ltd. (11%) บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะในตลาดบ้านเดี่ยวระดับราคาหลังละ 5 ล้านบาทขึ้นไป ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทยังมีผลการดำเนินงานในระดับที่ยอมรับได้ในกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยราคาระดับล่างซึ่งมีราคาอยู่ที่ 1-3 ล้านบาทต่อหลัง โดยตราสัญลักษณ์ที่อยู่อาศัยของบริษัทเป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างสูงในกลุ่มผู้ซื้อบ้านจัดสรร
ฐานะการเงินของบริษัทในปี 2555 ปรับตัวดีขึ้นในระดับที่น่าพอใจ โดยอัตราการเติบโตมาจากกลุ่มสินค้าที่อยู่อาศัยในระดับราคาระหว่าง 1-3 ล้านบาทต่อหน่วยและการเพิ่มขึ้นของยอดโอนโครงการคอนโดมิเนียม ยอดขายและรายได้ของบริษัทในปี 2555 เพิ่มขึ้น 35% และ 33% จากปี 2554 ตามลำดับ อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 12.5% ในปี 2555 เปรียบเทียบกับ 7.8% ในปี 2554 อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน ณ สิ้นปี 2555 ลดลงมาอยู่ที่ 59.1% จาก 63.0% ในปี 2554 ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการที่บริษัทได้รับเงินสดจากการจัดตั้งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 2 พันล้านบาทในปี 2555
อย่างไรก็ตาม ยอดขายในโครงการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมยังคงค่อนข้างช้า โดยเฉพาะในโครงการราคาระดับบน ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับผลกระทบคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของมูลค่าที่ดินและงานระหว่างก่อสร้าง ณ สิ้นปี 2555 โดยลดลงจาก 28% ในปี 2554 ทริสเรทติ้งคาดว่าคงต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควรกว่าที่ยอดขายของบริษัทจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้ อย่างไรก็ตาม ยอดขายที่แข็งแกร่งขึ้นในโครงการราคาระดับล่างและโครงการคอนโดมิเนียมก็น่าจะเพียงพอที่จะช่วยให้บริษัทสามารถรักษาสถานะการเงินให้สอดคล้องกับอันดับเครดิตได้ในระยะปานกลาง
ในช่วง 3 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐานอยู่ที่ 1.6-1.9 หมื่นล้านบาทต่อปี รายได้จากโครงการแนวราบน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี และส่วนที่เหลือจะมาจากโครงการคอนโดมิเนียม ณ สิ้นปี 2555 บริษัทมีมูลค่าโครงการคอนโดมิเนียมที่ยังไม่ได้ส่งมอบ (Backlog) อยู่ที่ 7 พันล้านบาท ทั้งนี้ ประมาณ 4.6 พันล้านบาทเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและโอนได้ในปี 2556 ส่วนที่เหลือเป็นโครงการที่จะโอนในปี 2557 อัตราส่วนกำไรของบริษัทน่าจะค่อนข้างมีเสถียรภาพในระยะปานกลาง ในขณะที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนน่าจะอยู่ที่ประมาณ 55% โดยพิจารณาจากแผนการเปิดโครงการใหม่ของบริษัทที่มูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านบาทต่อปี
บริษัทยังคงมีสภาพคล่องในระดับที่น่าพอใจ โดย ณ สิ้นปี 2555 ภาระหนี้ของบริษัทที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ 7.4 พันล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าบริษัทจะชำระคืนหนี้ส่วนใหญ่ด้วยการออกตราสารหนี้ระยะสั้นและหุ้นกู้ แหล่งสภาพคล่องของบริษัทได้แก่วงเงินที่ยังไม่ได้เบิกใช้มูลค่า 7.5 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1.5-1.9 พันล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ สภาพคล่องของบริษัทยังได้รับแรงหนุนจากเงินลงทุนในหลักทรัพย์ด้วยมูลค่ายุติธรรมที่ 2.46 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2555 ด้วย
บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (QH)
อันดับเครดิตองค์กร: A-
อันดับเครดิตตราสารหนี้:
QH135A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A-
QH136A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2556 A-
QH143A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A-
QH144A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2557 A-
QH152A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2558 A-
QH162A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 800 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
QH164A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,212 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
QH168A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 1,400 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-
QH178A: หุ้นกู้ไม่มีประกัน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560 A-
หุ้นกู้ไม่มีประกันในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2561 A-
แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable