กรุงเทพฯ--19 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,362เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,394 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 28.69 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,500 บาท กับ 18,600 บาท และกลับมาปิดที่ 18,900บาท กับ 19,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 4,179 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,480 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 105 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3.1% แบบ 10 บาท ลดลง 7.4% GFJ13ปิด 18,990 บาท และ GFM13ปิด 19,100 บาท GF10J13ปิดที่ 19,010บาท GF10M13ปิดที่ 19,070บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 9.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,392.5 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver ลดลง 6.2 เซนต์ ปิดที่ 23.245 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,132.99 ตัน (ขายออก 1.8 ตัน ) น้ำมัน NYMEX เพิ่มขึ้น 1.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 87.73 ดอลลาร์/ออนซ์ ดาวโจนส์ปิดลดลง 81.45 จุด ปิดที่ 14,537.14จุด
ข่าวที่สำคัญ
เมื่อวานนี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงเช้าตลาดเอเชีย ภายหลังมีแรงซื้อเข้ามาอย่างมากทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ $1,402.30 อย่างไรก็ตาม ราคายังไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ $1,400 ได้ ถือเป็นครั้งที่สามที่ราคาทดสอบ $1400 แล้วไม่ผ่าน
สัปดาห์นี้นับเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงติดต่อกัน จากแรงเทขายใน ETP ที่ประกอบด้วย ETF รวมไปถึง SPDR ได้ต้านทานความต้องการทองคำแท่งที่เพิ่มขึ้นจากออสเตรเลียไปจนถึงอินเดีย
ETP ขายติดต่อกัน 13 วัน ปัจจุบันคงทองที่ระดับ 2,348.099 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2012
เมื่อวันพุธ ETF ได้เทขาย 15.7 ตัน สู่ระดับ 2,359 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2011 และขายมาแล้วกว่า 275 ตันจากระดับสูงสุดในปลายปีที่แล้ว
เมื่อวานนี้ SPDR ขายออกอีก 1.8 ตัน ถือครองปัจจุบันที่ 1,132.99 ตัน นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี
หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาผิดหวังทั้ง Unemployment Claims, Philly Fed Manufacturing Index และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ ทำให้ยืนยันความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำ
ยอดขายเหรียญทองคำสหรัฐยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในเดือน เม.ย. ขายไป 153,000 ออนซ์ มากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังจากราคา Futures ในต้นสัปดาห์ได้ลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 1980
ราคาทองคำเช้านี้ทรงตัวใกล้บริเวณ $1400 ด้วยการซื้อขายอย่างระมัดระวัง โดยนักลงทุนกำลังรอข้อมูลจาก CFTC ที่จะประกาศ 2:30 น. เพื่อความชัดเจนในการซื้อขายมากขึ้น หลังจาก กองทุนต่างๆ ได้ลดการถือครองใน ETF ทั่วโลกไป
ตามข้อมูลของ Thomson Reuters Lipper (ทอมสัน รอยเตอร์ส ริปเปอร์) ซึ่งเป็นผู้ติดตามกองทุน รายงานว่า การเทขายทองคำของ SPDR มีจำนวนน้อยกว่าการเทขายในปี 2009 นอกจากนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมากองทุนต่างๆ ในสหรัฐถอนการลงทุนออกจากกองทุนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และกองทุนโลหะมีค่ามูลค่า 2.7 พันล้านดอลลาร์ จากราคาทองคำที่ได้รับผลกระทบจากแรงเทขายอย่างหนัก
ค่า Premium ในฮ่องกงอยู่ที่ 1.9-2.0 เหรียญต่อออนซ์ ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว และค่า Premium ในสิงคโปร์และโตเกียวก็ได้ทำจุดสูงสุดในรอบหลายเดือนอีกด้วย
สภาทองคำโลกกล่าวว่า ราคาที่ลดลง ได้กระตุ้นให้มีแรงซื้อทองคำแท่งเป็นวงกว้าง
กองทุนพอลสันได้ลดพอร์ตทองคำ 2.4% ในเดือน เม.ย. เนื่องจากการเทขายทองคำอย่างมาก แต่พอลสันได้กล่าวว่า การปรับตัวลงของทองคำ ยังไม่ได้เปลี่ยนมุมมองของแนวโน้มขาขึ้นของทองคำ
แหล่งข้อมูลระบุว่า ในสัปดาห์หน้านายพอลสันอาจมีการสรุปอัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการของกองทุนทั้งหมดในทองคำ
CME Group ประกาศเมื่อวานนี้เพื่อออกสัญญาซิลเวอร์ ฟิวเจอร์สใหม่ ขนาด 1,000 ออนซ์ โดยจะมีผลเริ่มซื้อขายในเดือนมิถุนายน 2013
นับว่าสัปดาห์นี้ซิลเวอร์มีราคาที่แย่ที่สุดในรอบเกือบ 19 เดือน
นางลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวเมื่อวานเรียกร้องให้เศรษฐกิจโลก“ขับเคลื่อนอย่างเต็มที่” และกดดันให้ยุโรปกระตุ้นการเติบโต และกล่าวว่าอีซีบี “ยังมีช่วงเหลือให้ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอีก” พร้อมย้ำว่า “ไซปรัสไม่ใช่แม่แบบ” ในการช่วยเหลือทางการเงินของประเทศอื่นในยูโรโซน
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียูกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ยูโรโซนจะแสดงงบประมาณรัดเข็มขัด เพื่อที่ช่วยในการฟื้นฟูการเติบโตของเศรษฐกิจ และเน้นถึงการเปลี่ยนนโยบายที่สหรัฐได้กดดันมานาน
การประชุม G20 จะยืนยันคำมั่นที่จะหลีกเลี่ยงการแข่งกันทำให้ค่าเงินอ่อนค่า และมีการวิจารณ์ญี่ปุ่นที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจจากภาวะเงินฝืด 15 ปี แม้ว่าเยนจะอ่อนค่า อีกทั้ง รองประธานธนาคารกลางจีนกล่าวว่า กรอบการซื้อขายของค่าเงินหยวนจะกว้างขึ้นในอนาคตอันใกล้
เฟดสาขาริชมอนด์และมิเนโพลิสกล่าวเมื่อคืนว่า กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ซึ่งอาจสื่อถึงความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
สภาล่างของเยอรมนีเห็นชอบให้เงินช่วยเหลือแก่ไซปรัส
รัฐสภาอิตาลีล้มเหลวในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 348K ตัวเลขจริงปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 352K
- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.0 ตัวเลขจริงปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.3
ข่าวเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- IMF Meetings
- G20 Meetings
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างช้าๆ ในตลาด COMEX โดยขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,400 เหรียญได้เป็นครั้งที่ 3 แต่ยังมีแรงเทขายหนาแน่นบริเวณดังกล่าว ทองคำเมื่อวานเคลื่อนตัวในกรอบ 1,340 — 1,400 เหรียญ ซึ่งถือว่าเป็นการแกว่งตัวในวงกว้างอย่างมาก โดยทองคำยังได้รับแรงสนับสนุนจากแรงซื้อในอินเดีย จีน ประเทศในโซนเอเชียรวมทั้งประเทศไทย เมื่อคืนนี้ตัวเลขคนว่างงานสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้น 4,000 ตำแหน่ง Philly Fed Manufacturing Index ออกมาแย่ลงจากระดับ 2 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1.3 จุด อย่างไรก็ดีตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ส่งผลมากมายนักต่อราคาทองคำ ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบ 1,385 — 1,395 เหรียญในตลาด COMEX โดยที่ SPDR ยังเป็นผู้ขายต่อเนื่องอีก 1.8 ตัน คงเหลือการถือครองทองคำอยู่ที่ระดับ 1,132.99 ตัน
วิเคราะห์ราคาทางเทคนิค — วิเคราะห์โดยภาพรวมได้ว่า ราคาทองคำยังเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในช่วงระยะสั้นๆ 1 — 2 วัน และยังมีความผันผวนของราคาอย่างมาก โดยที่แนวต้านด้าบนบริเวณ 1,400 เหรียญถือว่าเป็นแนวต้านที่สำคัญ ถ้ายังไม่สามารถทะลุผ่านได้ยังมีโอกาสที่ราคาจะลงมาทดสอบระดับ 1,300 เหรียญ
สัมมนาด่วนพิเศษ ในหัวข้อ “ปรับเปลี่ยนการแก้พอร์ทการลงทุนในGold futures และทองคำแท่ง”
โดยนายแพทย์ กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
สัมมนาที่ 1 ค่ำวันนี้ เวลา 19.00 — 21.00 น. เปิดรับสำหรับสมาชิก MTS Gold ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ณ สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า ชั้น 17
สัมมนาที่ 2 ค่ำวันจันทร์ที่ 22 เมษายน เวลา 19.00 — 21.00 น. เปิดรับนักลงทุนทั่วไป สอบถามปัญหาพอร์ทการลงทุนเพื่อแก้ไขกลยุทธ์การลงทุนของท่านให้ถูกทาง ณ โรงแรมแกรนด์ เดอ วิลล์ ห้องรมณีย์ ชั้น 10
เปิดรับลงทะเบียนเวลา 18.30 น. ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น สนใจสำรองที่นั่งได้ที่ Call center 0-2222-6222 ต่อ 121-124 ด่วน!!! ที่นั่งมีจำนวนจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เชื่อว่าในวันนี้ราคาจะแกว่งตัวในกรอบแคบบริเวณ 1,380 — 1,400 เหรียญ สำหรับทองคำในรูปเงินบาทของไทยยังถูกกดดันจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น 10 สตางค์จากเมื่อวานนี้ โดยตอนนี้อยู่ที่บริเวณ 28.70 บาท/ดอลลาร์ วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำคงจะเคลื่อนในทิศทาง Sideways แนะนำให้ใช้กลยุทธ์รอขายเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบริเวณ 1,400 เหรียญ
- นักลงทุนถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้ลดสถานะหรือปิดสถานะลง และบริหารความเสี่ยงในเชิงการลดสถานะ Long Position ลงให้ได้
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ทำกำไรเป็นช่วงๆ เมื่อราคาปรับตัวอ่อนลงมาและย้ำให้ลงทุนในกรอบสั้นๆ ไม่เกิน 5 วัน เมื่อผิดทางและผิดจังหวะควรมี Stop loss ให้สั้นและรวดเร็ว โดยแนะนำ Stop loss บริเวณ 1,405 เหรียญขึ้นไปสำหรับนักลงทุนที่ถือ Short Position
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,890 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,090 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,170 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง