กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ธนาคารธนชาต
TCAP รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาสแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้น 56.99% จากปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น การผสานพลังภายในกลุ่มธนชาต (Synergy) และการทำ Cross-sell ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆเพิ่มขึ้นหนุนรายได้หลักของกลุ่ม ในขณะที่ค่าใช้จ่ายดำเนินงานปรับตัวลดลง อีกทั้งมีการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีด้วยสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมลดลงอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา
ในส่วนของผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2556 นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวว่า เป็นที่น่าพอใจ และถือเป็นระดับผลกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำไรในไตรมาส 1/56 นี้อยู่ที่1,953 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามทิศทางที่เราต้องการมุ่งเน้นประสิทธิภาพของการสร้างรายได้ทั้งรายได้ดอกเบี้ยและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย โดยจะเห็นได้จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวสูงขึ้นจาก Spread ที่กว้างขึ้น ซึ่งเกิดจากประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนทางการเงิน ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ เกิดจากประสิทธิภาพของบริษัทลูกๆภายใต้กลุ่มที่สามารถทำกำไรได้ดีโดยใช้ช่องทางสาขาธนาคารธนชาตที่มีอยู่ ประกอบกับบริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้ในไตรมาสนี้จะมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นการกันสำรองเชิงคุณภาพเพิ่มเติม นอกจากนี้ NPL ของกลุ่มลดลงต่อเนื่องจากระดับสูงสุดที่ 6.5% มาอยู่ที่ 4.2% ณ สิ้นไตรมาส 1/56
ขณะที่ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมถึงแนวโน้มธุรกิจธนาคารพาณิชย์ว่าสินเชื่อจะยังคงขยายตัวดีต่อเนื่องตามการขยายตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ โดยมีการกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐผ่านนโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ ได้เริ่มนำมาใช้งานบางส่วนแล้วนั้นสามารถช่วยตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นทั้งในแง่ของความสะดวกรวดเร็วและความเป็นเลิศของการให้บริการ เราเชื่อว่ากลุ่มธนชาตจะตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพจากนี้เป็นต้นไป