กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
- เจ็ทสตาร์กลายเป็นกลุ่มสายการบินที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ด้วยเครื่องบิน 100 ลำในฝูงบิน
- เครื่องบินรุ่น A320 ลำที่สามที่ติดตั้งชาร์คเล็ต เตรียมพร้อมให้บริการ
- เจ็ทสตาร์ได้ตกแต่งเครื่องบินเป็นลวดลายพิเศษ เพื่อฉลองความสำเร็จการครบหนึ่งร้อยลำของฝูงบิน
เจ็ทสตาร์ เฉลิมฉลองการมีเครื่องบินให้บริการครบหนึ่งร้อยลำ ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่สะท้อนถึงศักยภาพการให้บริการครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น
นับจากเริ่มให้บริการในปี 2547 เจ็ทสตาร์ พัฒนาจากสายการบินในประเทศขนาดเล็กที่มีเครื่องบินเพียง 14 ลำ ให้บริการในแถบชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย จนกระทั่งกลายมาเป็นสายการบินแบรนด์เอเชียแปซิฟิกที่เติบโตเร็วที่สุดในการมีเครื่องบินให้บริการครบหนึ่งร้อยลำ
เจย์น เฮอร์ดิคลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเจ็ทสตาร์ กรุ๊ป กล่าวว่า “ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเพราะความอนุเคราะห์ของผู้โดยสาร 400,000 คนที่เลือกบินกับเจ็ทสตาร์ในแต่ละสัปดาห์ อีกทั้งการที่เราใช้เครื่องบินที่มีมาตรฐานเดียวกันหมด ทำให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากขึ้น ทำการบินไปยังจุดหมายต่างๆ ได้หลายแห่งมากขึ้น และเดินทางได้บ่อยขึ้นกว่าเดิม” เจย์น กล่าว
สำหรับความสำเร็จในครั้งนี้ เจ็ทสตาร์ได้ตกแต่งเครื่องบินรุ่น A320 ลำล่าสุดที่ติดตั้งชาร์คเล็ต ให้มีลวดลายพิเศษแสดงการเฉลิมฉลองฝูงบินครบหนึ่งร้อยลำ ซึ่งลวดลายพิเศษนี้แสดงให้เห็นภาพคน 132 คน ทั้งผู้โดยสารและทูตจากประเทศต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิก ทำท่า “เจ็ทสตาร์จั๊มพ์” และเป็นตัวแทนแบรนด์สายการบินในเครือเจ็ทสตาร์ทั้งห้าแบรนด์ โดยเครื่องบินลวดลายพิเศษฉลองครบร้อยลำ หมายเลขทะเบียน VH-VFN จะให้บริการในเส้นทางบินหลักในออสเตรเลีย และคาดว่าจะให้บริการข้ามไปยังนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ และญี่ปุ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
“การส่งมอบเครื่องบินรุ่น A320 ลำใหม่ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมการออกแบบปลายปีกแบบพิเศษ ทำให้เครื่องบินมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้น และช่วยให้เรานำเสนอบริการแก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน ด้วยต้นทุนที่ประหยัดมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นต่อพันธกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงทุนในเครื่องบินที่ทันสมัยพร้อมด้วยนวัตกรรมใหม่ เพื่อยังประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า” เจย์น กล่าวเสริม
เจย์น เฮอร์ดิคลา กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นับเป็นโอกาสการเติบโตที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับแควนตัสกรุ๊ป เนื่องจากเจ็ทสตาร์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาธุรกิจในตลาดที่ท้าทายที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก นอกจากนี้ ด้วยความมุ่งมั่นของเจ็ทสตาร์ในด้านเทคโนโลยีและการส่งออกเผยแพร่ความเชี่ยวชาญไปยังตลาดต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความสามารถของทีมงานต่างๆ ในกลุ่ม ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาของเส้นทางธุรกิจในระยะสั้นๆเจ็ทสตาร์ได้พัฒนาธุรกิจสายการบินราคาประหยัดให้ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการขยายไปในตลาดที่ยังไม่เคยมีสายการบินราคาประหยัดรายใดเข้าไปให้บริการมาก่อน” เจย์น กล่าวปิดท้าย
ปัจจุบันกลุ่มเจ็ทสตาร์มีเครื่องบินสามลำที่ติดตั้งชาร์คเล็ต เพื่อช่วยประหยัดพลังงาน โดยลำหนึ่งเป็นของเจ็ทสตาร์ เอเชีย เจ็ทสตาร์ เจแปน และล่าสุดเป็นของเจ็ทสตาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
** เจ็ทสตาร์ กรุ๊ป ประกอบด้วย สายการบินเจ็ทสตาร์ ออสเตรเลีย และเจ็ทสตาร์ นิวซีแลนด์ (บริษัทย่อยของแควนตัส กรุ๊ป) เจ็ทสตาร์เอเชียในประเทศสิงคโปร์ เจ็ทสตาร์ แปซิฟิกในประเทศเวียดนาม และเจ็ทสตาร์ เจแปน ในประเทศญี่ปุ่น
** สำหรับเจ็ทสตาร์ ฮ่องกง เมื่อได้รับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับทางการบิน จะทำการบินไปยังจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงปลายปีนี้
เกี่ยวกับเจ็ทสตาร์ เอเชีย
เจ็ทสตาร์ เอเชีย เริ่มเปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2547 ต่อมาในปี 2548 มีสายการบินแวลูแอร์แห่งประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสายการบินในเครือ โดยให้บริการเที่ยวบินสู่จุดหมายปลายทางต่างๆ ในประเทศอินโดนีเซีย ปัจจุบัน เจ็ทสตาร์ เอเชียและแวลูแอร์ให้บริการเที่ยวบินไป - กลับรวมทั้งสิ้นสัปดาห์ละมากกว่า 400 เที่ยวสู่จุดหมายปลายทาง 24 แห่ง
ใน 13 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
เกี่ยวกับเจ็ทสตาร์ กรุ๊ป
เจ็ทสตาร์ กรุ๊ป คือ กลุ่มสายการบินค่าโดยสารราคาประหยัดขนาดใหญ่สุดและมีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกอบด้วยสายการบินเจ็ทสตาร์ออสเตรเลีย เจ็ทสตาร์นิวซีแลนด์ (ในเครือของแควนตัส กรุ๊ป) เจ็ทสตาร์ เอเชีย เจ็ทสตาร์แปซิฟิกในเวียดนาม เจ็ทสตาร์ เจแปนในญี่ปุ่น และเจ็ทสตาร์ ฮ่องกง ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2556 (ขึ้นอยู่กับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับทางการบิน) ในปี 2555 เจ็ทสตาร์ กรุ๊ป ได้ให้บริการรับส่งผู้โดยสาร
รวมทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านคน ด้วยเที่ยวบินสัปดาห์ละมากกว่า 3,000 เที่ยว สู่จุดหมายปลายทางกว่า 60 แห่ง
เครื่องแอร์บัส A320
เครื่องบินรุ่น A320 สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 177-180 คน เพื่อเดินทางระหว่างออสเตรเลียและนิวซีแลนด์และบรรทุกผู้โดยสารได้ 180 คนสำหรับการเดินทางภายในภูมิภาคเอเชีย ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวางที่สุดในบรรดาเครื่องบินโดยสารทางเดินเดียว (single-aisle aircraft) ในปัจจุบัน
จำนวนเครื่องบิน
Jetstar Airways (JQ) 52 ลำ
Jetstar Asia (3K) 18 ลำ
Jetstar Japan (GK) 10 ลำ
Jetstar Pacific (BL) 5 ลำ
เครื่องแอร์บัส A321
เครื่องบินรุ่น A321 มีความยาวมากกว่ารุ่น A320 ประมาณ 7 เมตร ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้โดยสาร 220 คนโดยสายการบินเจ็ทสตาร์ มีเครื่องบินรุ่น A321 นี้ จำนวน 6 ลำ
เครื่องแอร์บัส A330-200
เครื่องบินรุ่น A330-200 เป็นรุ่นในกลุ่มเดียวกับ A330 ประเภทเครื่องยนต์คู่ ลำตัวกว้าง ทว่ามีลำตัวสั้นกว่าและมีความยืดหยุ่น สามารถรองรับเส้นทางบินได้ทั้งระยะสั้นและระยะที่ยาวมากๆ ซึ่งมีขนาดลำที่เหมาะสมสำหรับการบินตรงระหว่างจุดหมายปลายทาง
เครื่องบินรุ่น A330-200 ของเจ็ทสตาร์จำนวน 11 ลำ มีสองแบบดังนี้:
- รุ่น 303 ที่นั่ง ประกอบด้วย ชั้นธุรกิจจำนวน 38 ที่นั่ง และชั้นประหยัดจำนวน 265 ที่นั่ง หรือ
- รุ่น 310 ที่นั่ง ประกอบด้วย ชั้นธุรกิจจำนวน 42 ที่นั่ง และชั้นประหยัดจำนวน 268 ที่นั่ง