กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--อีริคสัน
อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บ (Ericsson ConsumerLab) ได้เปิดเผยรายงานผลการศึกษาเรื่อง “การใช้เทคโนโลยี ICT เพื่อการศึกษาหรือกิจกรรมพักผ่อน” ที่ศึกษาพฤติกรรมและประโยชน์ของการนำอุปกรณ์เทคโนโลยีส่วนตัว เช่น คอมพิวเตอร์โน๊ตบุก โทรศัพท์มือถือ รวมถึงแท็บเล็ต มาที่โรงเรียนของเด็กนักเรียน
อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บได้ทำการศึกษาและสำรวจออนไลน์กับเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 15 - 18 ปี จาก 5 โรงเรียนดังที่มีชื่อเสียงในด้านไอที ในประเทศเอสโตเนีย โดยจัดเป็นลักษณะการทำแบบวิเคราะห์เชิงลึกเฉพาะกลุ่ม (Focus Group)
ประเทศเอสโตเนียเป็นสังคมที่นำเทคโนโลยี ICT มาใช้อย่างจริงจัง โดยภาครัฐก็ส่งเสริมการเกิด e-Society (Electronic-Society) อย่างแพร่หลาย ซึ่งทุกครัวเรือนมีการเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต และ 98 เปอร์เซ็นต์ของโรงเรียนมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์อย่างแพร่หลาย และนี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บสนใจที่จะศึกษาพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีของเด็กนักเรียนกลุ่มนี้นั้นเอง
นาย มารคัส เพอร์สัน หัวหน้าทีมงานการวิจัยของ อีริคสันคอนซูเมอร์แล็บในครั้งนี้ กล่าวว่า “ในการสัมภาษณ์กลุ่มเด็กนักเรียนครั้งนี้ เราพบว่าทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือต่างถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งการเรียนและกิจกรรมยามว่าง ทั้งในโรงเรียนและที่บ้าน”
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ดิจิตอลเครื่องแรกๆ ที่นำมาใช้ในโรงเรียนที่เอสโตเนีย แต่อย่างไรก็ตามกระแสของแท็บเล็ตที่เกิดขึ้นมา ดูเหมือนว่ามันกำลังจะเข้ามาแทนที่อุปกรณ์ดังกล่าว
แม้นักเรียนทุกคนสามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของโรงเรียนได้ แต่ประมาณสองในสามของนักเรียนที่จะใช้คอมพิวเตอร์ของโรงเรียน และหนึ่งในสามของของนักเรียนจะนำแท็บเล็ตส่วนตัวมาใช้ที่โรงเรียน ในขณะสัมภาษณ์เด็กนักเรียนวัยรุ่นส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาชอบใช้งานแท็บเล็บมากกว่าเพราะด้วยความน้ำหนักที่เบาและสามารถเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้สะดวก
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สำหรับโทรศัพท์มือถือในความคิดเห็นของครูต่างๆยังมองว่าอุปกรณ์ดังกล่าวยังไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในด้านการเรียน แต่ว่าหนึ่งในสี่ของเด็กนักเรียนที่ให้สัมภาษณ์กลับบอกว่าพวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อการเรียน ไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ต ถ่ายภาพต่างๆ บนกระดานไวท์บอร์ด รวมทั้งการหาข้อมูลบนอินเทอร์เนตเป็นต้น
โทรศัพท์มือถือจึงเปรียบเสมือนเป็นอุปกรณ์เสริมที่เข้ามาเติมเต็มความจำเป็นในเรื่องของการสื่อสารทั้งในทางการเรียนและกิจกรรมยามว่าง ทั้งที่เกิดขึ้นในโรงเรียนและสถานที่ภายนอก
นาย บัญญัติ เกิดนิยม ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารและองค์กรสัมพันธ์ อีริคสันประเทศไทย ได้กล่าวเสริมว่า แม้ว่าคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และโทรศัพท์มือถือได้แสดงถึงประโยชน์มากมายที่ช่วยส่งเสริมในการเรียนการศึกษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แต่ความท้าทายอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนก็คือ การจัดสมดุลในการใช้งานระหว่างใช้เพื่อพักผ่อนยามว่างและใช้เพื่อการเรียนการศึกษา
ดังนั้นการฝึกและปลูกฝังเรื่องของวินัยการเลือกใช้งานอย่างเหมาะสมสำหรับเด็กนักเรียนกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะตัวพวกเขาเองจะต้องเป็นคนแยกแยะและเลือกระหว่างการใช้งานเพื่อประโยชน์ในยามว่างหรือการนำมาใช้ประโยชน์ในการเรียนการศึกษา