กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) และกรมป่าไม้ จัดกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม ประจำปี 2556 ภายใต้โครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ที่จังหวัดระยอง ส่งเสริมเยาวชนภาคกลางและภาคตะวันออกเรียนรู้การอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรป่าไม้ รวมทั้งเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้นำเพื่อร่วมกันสืบสานการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
กิจกรรมค่ายเยาวชน “กล้ายิ้ม” ครั้งนี้ นับเป็นปีที่ 6 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมรวมแล้วกว่า 890 คน มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกการอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อมในจิตใจให้แก่เยาวชน ความตระหนักการอนุรักษ์พลังงานเพื่อมีความเข้าใจในการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน และเสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำของเยาวชนคนรุ่นใหม่กล้ายิ้มเกิดเป็นเครือข่ายที่มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป
การดำเนินการกิจกรรมค่ายเยาวชน “กล้ายิ้ม” ปี 2556 นี้ ได้นำเยาวชนอายุระหว่าง 13 - 15 ปี รวม 84 ชีวิต จาก ป่าชุมชนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก 13 จังหวัด ได้แก่ ระยอง สระแก้ว ปราจีนบุรี จันทบุรี สิงห์บุรี นครนายก ชัยนาท ฉะเชิงเทรา สระบุรี ราชบุรี เพชรบุรี กาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ มาเข้าร่วมกิจกรรมเข้าค่ายเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ณ สินสยามรีสอร์ท ต.กร่ำ อ.แกลง จังหวัดระยอง โดยเยาวชนกล้ายิ้มจะได้เรียนรู้ถึงแนวคิดและการประยุกต์วิธีการประหยัดพลังงาน การอนุรักษ์ป่าชุมชนเพื่ออนาคตของชุมชนนำไปสู่การขับเคลื่อนป่าไม้ของประเทศชาติ และเป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเยาวชนกล้ายิ้มที่ดีต่อไป ทุกกิจกรรมให้ทั้ง ความสนุกสนานและสอดแทรกความสามัคคี
ทั้งนี้ รูปแบบของค่ายมุ่งเน้น 2 กิจกรรมหลัก คือ “ภาคทฤษฎี” เพื่อให้เยาวชนเกิดความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอนุรักษ์พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกันระหว่างเยาวชนแต่ละพื้นที่อันเป็นประโยชน์ต่อการปรับตัวและการดำรงชีวิตในอนาคต รวมทั้งฝึกทักษะสำคัญด้านต่าง ๆ แก่เยาวชน ได้แก่ การเป็นผู้นำ การใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ทักษะการคิด การนำเสนอผลงาน การทำงานเป็นทีม และความสามัคคี และ “ภาคปฏิบัติ” ณ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติสองสลึง ป่าชุมชนบ้านไทรเอน เพื่อเยาวชนได้เรียนรู้และ ฝึกประสบการณ์ผ่านกิจกรรมต่างๆ ได้แก่
ฐานที่ 1 น้ำมันไบโอดีเซล: น้องๆเยาวชนเรียนรู้ถึงวิธีการทำน้ำมันไบโอดีเซลและประโยชน์ของการใช้ไบโอดีเซลในเครื่องยนต์ ที่สามารถช่วยลดมลพิษทางอากาศ เนื่องจากสามารถ ลดมวลปลดปล่อยจากการเผาไหม้ได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังสามารถลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก เพราะผลิตจากน้ำมันพืชที่ใช้แล้ว
ฐานที่ 2 การเผาถ่าน น้ำส้มควันไม้: น้องๆเยาวชนเรียนรู้การเผาถ่านและประโยชน์จากการเผาถ่าน เนื่องจาก สิ่งที่ได้จากการเผา คือ น้ำส้มควันไม้ ที่มีประโยชน์ในเรื่องการไล่แมลงให้แก่ต้นพืช และมีคุณสมบัติการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถนำน้ำส้มควันไม้มาใช้ร่วมกับแชมพูเพื่อขจัดรังแค หรือใช้รักษาผิวพรรณเพื่อรักษาฝ้า และช่วยขจัดผิวหนังที่เสื่อมสภาพ
ฐานที่ 3 การเพาะชำกล้าไม้: น้องๆเยาวชนเรียนรู้ประเภทและการจำแนกป่าไม้ในประเทศไทย การจำแนกทาง พฤกษศาสตร์ของประเภทไม้ และการจำแนกชนิดไม้ รวมทั้งวิธีทำการเพาะชำกล้าไม้
ฐานที่ 4 ปุ๋ยหมัก: น้องๆเยาวชนเรียนรู้วิธีการทำปุ๋ยหมัก โดยนำเศษซากจากพืชมาทำปุ๋ยหมักซึ่งสร้างคุณประโยชน์อันมากมาย อาทิ ใช้บำรุงดินเพิ่มคุณภาพของผลผลิตให้ดีขึ้น ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี และการนำมาใช้ในการซักล้างทำความสะอาด รวมทั้งใช้ดับกลิ่นในห้องน้ำ
ด.ญ. พิมพ์สุดา คงประสาท (น้องฟ้า) อายุ 14 ปี ตัวแทนป่าชุมชนบ้านไทรเอน จังหวัดระยอง บอกเล่าความรู้สึกที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมค่ายกล้ายิ้มครั้งแรกว่า “รู้สึกสนุกที่ได้เข้าค่าย เพราะว่าได้เพื่อนใหม่และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการประหยัดพลังงานรอบๆ ตัวเรา เช่น การใช้ฝักบัวแทนการใช้ขันน้ำ รวมทั้งการดูแลต้นไม้อย่างการเพาะชำกล้าไม้ทำให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปช่วยที่บ้าน”
ด้าน ด.ญ. ชุลีกร ทรัพย์ศรี (น้องแยม) อายุ 13 ปี และ ด.ญ. มาริสา ไกรสิงห์ (น้องการ์ตูน) อายุ 13 ปี ตัวแทนป่าชุมชนบ้านอินไตรย์ จังหวัดปราจีนบุรี บอกเล่าให้ฟังว่า “เราสองคนได้ชวนกันเข้าร่วมค่ายกล้ายิ้มอีกครั้งเนื่องจากเคยเข้าร่วมค่ายกล้ายิ้มปีที่แล้วรู้สึกประทับใจมาก ครั้งนี้จึงอยากเข้าร่วมค่ายอีก นอกจากจะได้ความรู้ใหม่ ยังได้รู้จักเพื่อนใหม่อีกด้วย การเข้าค่ายทำให้หนูมีความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เช่น การทำปุ๋ยหมัก การเผาถ่าน และยังเกิดความรู้สึกรักและเห็นคุณค่าของป่าไม้ ซึ่งในชุมชนหนูได้มีส่วนร่วม ในการช่วยสอดส่องหากใครบุกรุกป่าชุมชนของพวกเรา”
“เราภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนงานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับประเทศ ซึ่งถือเป็นภารกิจหลักด้านความรับผิดชอบต่อสังคมที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการมาโดยตลอดภายใต้โครงการ "คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน" ซึ่งดำเนิน 3 กิจกรรมหลัก คือ การประกวดป่าชุมชนตัวอย่างชนะเลิศระดับประเทศ กิจกรรมสัมมนาเครือข่ายผู้นำป่าชุมชน และกิจกรรมค่ายเยาวชนกล้ายิ้ม โดยมุ่งหวังว่ากิจกรรมค่ายเยาวชนนี้จะช่วยบ่มเพาะ ต้นกล้าเยาวชนที่มีหัวใจรักษ์สิ่งแวดล้อมจากกระบวนการเรียนรู้และเสริมสร้างความเข้าใจ โดยผ่านรูปแบบของกิจกรรมต่างๆ อันจะช่วยพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้เกิดเจตคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างป่ากับชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนาสิ่งแวดล้อมในชุมชนสืบทอดต่อจากรุ่นสู่รุ่นสืบไป” นางบุญทิวา ด่านศมสถิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหารองค์กร บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าว