กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--กรุงเทพธุรกิจ มีเดีย
กรุงเทพธุรกิจ-ศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดผลสำรวจ CEO Sentiment Index เดือนมี.ค.-เม.ย. นักธุรกิจหนึ่งในสี่ห่วงเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สองอาจไม่ดีเหมือนไตรมาสแรก ต้นทุนพุ่งฉุดดัชนีสภาพคล่องติดลบ
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจร่วมกับศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPURC) เปิดผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหาร CEO Sentiment Index ประจำเดือนมีนาคม-เมษายน สำรวจความเห็นของผู้บริหารบริษัทจำนวน 413 คน เกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 และแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 จากการสำรวจระหว่างวันที่ 25 มีนาคมถึง 4 เมษายน 2556 พบว่า ผู้บริหาร 53.1% ระบุว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้ ผู้บริหารอีก 24.4% ระบุว่า น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ และผู้บริหาร 22.5% ระบุว่า ผลประกอบการดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 มีผู้บริหารเพียง 11.7% เท่านั้นที่ระบุว่า แนวโน้มน่าจะดีขึ้นกว่าไตรมาสที่ 1 ขณะที่ผู้บริหาร 62.1% ระบุว่าแนวโน้มน่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา และผู้บริหาร 26.2% ระบุว่า เศรษฐกิจน่าจะแย่ลงกว่าไตรมาสที่ 1
ขณะที่ดัชนีด้านเศรษฐกิจได้สะท้อนการคาดการณ์ของนักธุรกิจเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย เห็นได้จากดัชนีภาวะเศรษฐกิจมีค่าลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2556 แม้ว่าการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในเดือนพฤษภาคมจะปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยเป็น 7 จุด แต่หากเทียบกับผลเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถือว่ายังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ
ดัชนีต้นทุนไตรมาส 2 พุ่งต่อเนื่อง
สำหรับดัชนีด้านการทำธุรกิจซึ่งมี 4 ด้านด้วยกัน คือ ดัชนีด้านรายได้ ดัชนีด้านต้นทุน ดัชนีด้านสภาพคล่อง และดัชนีด้านการจ้างงานนั้น จากผลการสำรวจพบว่า ดัชนีด้านต้นทุนที่อยู่ในระดับ 31 จุดในเดือนมีนาคม ได้เพิ่มขึ้นเป็น 42 จุดในเดือนเมษายน และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 45 จุดในเดือนพฤษภาคม แสดงให้เห็นถึงความกังวลใจเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการทำธุรกิจที่เกิดจากผลสะสมของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และในบางธุรกิจต้นทุนการทำธุรกิจยังได้รับผลกระทบจากภัยแล้งอีกด้วย
ขณะที่ดัชนีด้านรายได้ในเดือนเมษายน พบว่า มีค่าปรับลดลงมาเป็น 4 จุด สะท้อนให้เห็นว่า โดยภาพรวมแล้ว ธุรกิจส่วนใหญ่ยังประสบกับปัญหาการเพิ่มรายได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์รายได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมพบว่า ได้ปรับตัวขึ้นมาเป็น 9 จุด
การเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยของรายได้เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของต้นทุน ส่งผลให้ดัชนีสภาพคล่องมีค่าลดลงมาเป็น 4 จุดในเดือนเมษายนและคาดว่าจะมีค่าติดลบเท่ากับ -6 จุด ในเดือนพฤษภาคม ส่งผลต่อการจ้างงาน ทำให้ดัชนีการจ้างงานมีค่าลดลงเป็น 5 จุดในเดือนเมษายน และคาดว่าจะลดลงเหลือ 2 จุดในเดือนพฤษภาคม
5 ปัจจัยหลักกระทบธุรกิจไตรมาส 2
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการทำธุรกิจในไตรมาสที่สองของปี 2556 (เมษายน ถึง มิถุนายน) 5 อันดับแรก คือ ต้นทุนวัตถุดิบมี 3.7 คะแนน ต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น 3.5 คะแนน สภาวะเศรษฐกิจของไทย การแข็งขึ้นของค่าเงินบาท และความต้องการของตลาดที่ลดลง ซึ่งได้ 3.4 คะแนนเท่ากัน
ผลสำรวจในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่าเป็นห่วง เพราะปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการทำธุรกิจ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของธุรกิจ แม้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจไทยและความสามารถในการสร้างรายได้จะเพิ่มขึ้น แต่การที่ต้นทุนในการทำธุรกิจยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้สภาพคล่องมีแนวโน้มลดลง ย่อมหมายถึงความอ่อนไหวทางการเงินที่สูงขึ้นซึ่งจะไปลดทอนความสามารถในการรับมือกับความเสี่ยง