กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- เร่งซ่อมจิตรกรรมฝาผนัง วัดขนอนเหนือ ธรรมาสน์และสังเค็ด วัดเชิงท่า
- พร้อมจัดทำป้ายโบราณสถาน และภาพจิตรกรรมเสมือนจริงอีก 24 วัด
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สนับสนุนกรมศิลปากร ในการอนุรักษ์สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองอยุธยาหลังสำรวจพบปริมาณน้ำใต้ดินที่ขังอยู่นานในช่วงน้ำท่วม เริ่มทำลายโบราณสถานของวัดสำคัญหลายแห่ง โดยเบื้องต้นจะเร่งดำเนินการอนุรักษ์จิตรกรรม ฝาผนังวัดขนอนเหนือ อนุรักษ์ธรรมาสน์ และสังเค็ด วัดเชิงท่า รวมถึงการจัดสร้างป้ายโบราณสถานที่มีภาพจิตรกรรมเสมือนจริงให้กับวัดอีก 24 แห่งภายใต้โครงการ “กรุงศรีอนุรักษ์ศิลปกรรมและโบราณสถาน จังหวัดบ้านเกิด” ซึ่งกรุงศรีได้มอบเงินสนับสนุนเป็นจำนวน 4,060,000 บาท ในปีนี้
นายสหวัฒน์ แน่นหนา อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า “กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยาได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของโบราณสถานสำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากน้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา และพบว่า จิตรกรรมฝาผนัง วัดประทุมสิงขรขนอนเหนือ หรือวัดขนอนเหนือ มีสภาพชำรุดทรุดโทรม เนื่องจากปัญหาความชื้นและเกลือ ทำให้ปูนเปื่อยยุ่ยเป็นผงหลุดร่วงออกมา ทำให้ภาพจิตรกรรมได้รับความเสียหายอย่างหนัก นอกจากนั้นยังพบว่าวัดเชิงท่าที่ถูกน้ำท่วมนานเกือบสามเดือน ธรรมาสน์และสังเค็ด ซึ่งเป็นศิลปะสมัยพระเจ้าทรงธรรม เกิดชำรุด เสื่อมสภาพ จึงสมควรต้องเร่งดำเนินการอนุรักษ์ซ่อมแซมเป็นการด่วน”
นางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ธนาคารได้ให้การสนับสนุนการอนุรักษ์โบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 และในปีนี้กรุงศรีก็ได้สนับสนุนการอนุรักษ์จิตรกรรมฝาผนัง วัดขนอนเหนือ ธรรมมาสน์ และสังเค็ด วัดเชิงท่า ซึ่งถือเป็นการบูรณะครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่งที่พวกเราชาวกรุงศรีได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติในจังหวัดบ้านเกิดของธนาคารให้คงอยู่ถึงชนรุ่นหลังต่อไป”
“นอกจากการบูรณะสองวัดสำคัญดังกล่าวแล้ว ธนาคารกรุงศรียังได้สนับสนุนในการจัดสร้างป้ายโบราณสถาน และภาพจิตรกรรมฝาผนังเสมือนจริงอีก 25 ป้าย เพื่อมอบให้กับวัด 24 แห่งทั่วเมืองอยุธยา ซึ่งป้ายดังกล่าวจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยการถ่ายภาพจิตรกรรมฝาผนังและบันทึกลงแผ่นเซรามิคเสมือนจริงด้วยสี และรายละเอียด ทำให้สามารถเก็บภาพจิตรกรรมที่หลงเหลืออยู่ไว้เป็นหลักฐานได้อย่างถาวร และ เมื่อได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรี ทางสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ก็จะได้เร่งบูรณะให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 9 เดือน” นายสหวัฒน์ กล่าว
สำหรับวัดประทุมสิงขรขนอนเหนือ หรือวัดขนอนเหนือ เป็นวัดที่ก่อสร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยพระยาสีหราชเดโช พระสหายของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นผู้สร้างขึ้น โดยจิตรกรรมฝาผนังของอุโบสถ จะเขียนเป็นเรื่องพุทธประวัติ ที่ทรงคุณค่าทางโบราณคดี นอกจากนั้นยังแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของสังคมไทย ตึก อาคาร ร้านค้าของชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในแผ่นดินไทยในช่วงสมัยนั้น
วัดเชิงท่าเป็นวัดโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ปรากฏหลักฐานผู้สร้าง ภายในวัดจะมีโบราณวัตถุหลายอย่าง รวมถึง ธรรมมาสน์และสังเค็ด ที่คาดว่าจะสร้างในสมัยของพระเจ้าทรงธรรม ด้วยลายหน้าบันคล้ายลายบานประตูวิหารน้อยวัดหน้าพระเมรุ เป็นระบบลายสมัยอยุธยาตอนกลาง งานจำหลักไม้ปิดทอง ประดับกระจก สังเค็ดยอดปราสาทฝีมือประณีตงดงามมาก