กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,418 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,423(22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 23.34 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,950 บาท กับ 19,150บาท และ19250 กลับมาปิดที่ 19,300 บาท กับ 19,400 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,593คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,352 คู่สัญญา Silver Futures ไม่มีการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 5.1% แบบ 10 บาท ลดลง 2.2% GFJ13ปิด 19,420 บาท และ GFM13ปิด 19,500 บาท GF10J13ปิดที่ 19,420 บาท GF10M13ปิดที่ 19,510 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 25.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,421.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver เพิ่มขึ้น 36.4 เซนต์ ปิดที่ 23.324 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,104.71 ตัน (ขายออก 18.35 ตัน ) น้ำมัน NYMEX เพิ่มขึ้น 75 เซ็นต์ ปิดที่ 88.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 19.66 จุด ปิดที่ 14,567.17 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ปริมาณความต้องการทองคำสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทองคำแท่ง เหรียญทองคำ และทองรูปพรรณ ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 5 วันแล้ว
อีกหนึ่งปัจจัยบวกต่อราคาทองคำได้แก่ การประชุม G20 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่เหล่านานาชาติต่างยอมรับการกระตุ้นเศรษฐกิจของญี่ปุ่น จึงอาจเปิดโอกาสให้ธนาคารกลางอื่นๆ อาจต้องการดำเนินการผ่อนคลายการเงินเช่นกัน
ประธานธนาคารโลก นายจิม ยอง คิม ได้กล่าวยินดีกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยระบุว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา
นายจอร์จ เจโร รองประธานอาร์บีซี แคปปิตอล มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะกล่าวว่า ปริมาณความต้องการทองคำนั้นแข็งแกร่งพอที่จะผลักดันให้เดียเลอร์หันกลับเข้าสู่ตลาดเพื่อเข้าซื้อในสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ส
สำนักข่าว CNBC รายงานเช้านี้เกี่ยวกับเรื่องที่ ทองคำได้ลงไปทำจุดต่ำสุดเรียบร้อยแล้วหรือไม่? จากการที่ราคาทองคำรีบาวน์กลับมา $100 จากจุดต่ำสุดเดิมในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้คำกล่าวจาก HSBC ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือมีการโต้ตอบจากผู้บริโภคและนักลงทุนรายย่อยต่อราคาที่ปรับลดลง ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณการเข้าซื้อจากจีนและอินเดียรวมกันมีสูงมาก ประกอบกับยอดขายเหรียญทองคำสหรัฐที่เพิ่มขึ้น และข้อมูลจาก CFTC ล่าสุดที่นักลงทุนเพิ่มการลงทุนในสถานะ Long เพิ่มขึ้น
ปัจจัยลบต่อราคาทองคำยังคงหนีไม่พ้นการเทขายของ SPDR โดยเมื่อวานนี้ขายออกมาอีก 18.35 ตัน หรือ 1.63% คงทองเหลือที่ระดับ 1,104.71 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2010 กดดันให้เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลง
กลุ่มธุรกิจบริการทางด้านธรณีวิทยาของสหรัฐกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เหมืองทองคำต่างๆ มีการผลิตทองคำจำนวน 19,200 กิโลกรัมในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 4% จากผลผลิตเดือนพฤศจิกายน
อริโซน่าอาจกลายเป็นรัฐที่สองของสหรัฐ รองจากยูทาห์ ที่จะมีการใช้ทองคำและซิลเวอร์ในฐานะตั๋วเงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากอิตาลีทำการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีเสถียรภาพมากขึ้นทางด้านการเมือง
อ้างอิงข้อมูลจากหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ไอเอ็นจี แบงก์ คาร์เซ่น เบรซกี้ กล่าวว่า อีซีบีจะรอจนถึงการประชุมอีซีบีในเดือนมิถุนายนเพื่อทำการลดอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าการประชุมในเดือนพฤษภาคมอาจมีการประกาศกระตุ้นการให้กู้ยืมของกลุ่ม SME ก็ตาม
กระทรวงการคลังของเยอรมนีกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีทรงตัวคงที่ในไตรมาสที่ 1 หลังจากหดตัว 0.6% ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
เช้านี้ HSBC ประกาศดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีนออกมาลดลง จากเดิม 51.6 มาอยู่ที่ระดับ 50.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 4.95M ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 5.02M ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 4.92M
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Flash Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 54.6 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 53.8
-New Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 411K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 416K
วิเคราะห์ราคาทองคำ
ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางการซื้อขายในตลาดเอเชีย จนผลักดันราคาขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,436 เหรียญโดยประมาณ ก่อนที่จะมีแรงเทขายทำกำไรกลับเข้ามาในต้นตลาด COMEX ส่งผลให้ราคาปรับร่วงลงมาบริเวณ 1,419 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,421.2 เหรียญ MTS Gold วิเคราะห์ได้ว่า ภาพรวมของการซื้อจากปริมาณ physical ทองยังมีอยู่หนาแน่น จึงผลักดันทำให้ราคาสามารถทรงได้บริเวณ 1,400 เหรียญ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องดูสภาวะการตอบรับว่ายังสามารถคงในอัตรานี้ได้ตลอดทั้งสัปดาห์หรือไม่ โดยภาพรวมตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเมื่อคืนมีการประกาศยอดขายบ้านมือสองออกมาลดลง 20,000 หลัง และ SPDR ขายออก 18.35 ตัน คงทองเหลือ 1,104.71 ตัน ในขณะที่ในวันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาได้แก่ Flash Manufacturing PMI คาดการณ์ว่าจะลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตัวเลข New Home Sales คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 หลัง
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ราคาทองคำเป็นลักษณะของ Technical Rebound และวิเคราะห์ได้ว่าการเคลื่อนตัวจะอยู่ในกรอบประมาณ 1,400 — 1,430 เหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ — ยังแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในทิศทางขาลง โดยให้เปิดสถานะ Short Position บริเวณแนวต้าน 1,425 เหรียญขึ้นไป ภาพรวมยังเป็นลักษณะการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในระยะสั้นๆ ในวันนี้
นักลงทุนถือ Long Position
ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long Position บริเวณที่ราคาเคลื่อนตัวขึ้นมา หรือลดการถือครองทองคำลง ตามสภาพของ SPDR ที่ยังคงมีการขายทองคำออกมาต่อเนื่อง
นักลงทุนที่ถือ Short Position
ยังแนะนำให้เปิด Short Position เพิ่มบริเวณเหนือ 1,430 เหรียญขึ้นไป
Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,550 บาท
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,620 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้ วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง