กรุงเทพฯ--24 เม.ย.--วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์
วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ ปลุกตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดใหญ่ นำเข้า Victory Motorcycles จากอเมริการวดเดียว 11 รุ่น สนนราคาค่าตัว 1.015-1.995 ล้านบาท ชูจุดเด่นที่สุดแห่งการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีอันล้ำสมัยและดีไซน์สวยหรูสุดคลาสิกระดับเวิลด์คลาส ตั้งเป้าขาย 60 คัน พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายทั้งโชว์รูมและศูนย์บริการครบทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วไทย หวังตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม หลังมีนักธุรกิจหลายรายสนใจขอสมัครเป็นดีลเลอร์
นายณัฐบูร และนายณัฐพล ไตรณัฐี กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย “Victory Motorcycles” รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์จากประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการเติบโตของตลาดรถบิ๊กไบค์ของเมืองไทยที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีความชื่นชอบและรักในการขับขี่รถบิ๊กไบค์เป็นการส่วนตัว ทำให้มองเห็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจ จึงนำเข้า “Victory” รถบิ๊กไบค์จากประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามาจำหน่ายและเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่นักขับขี่คนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันหันมานิยมใช้รถบิ๊กไบค์เพื่อการท่องเที่ยวและตอบโจทย์ความเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ได้อย่างตรงจุด
“จากการติดตามบททดสอบรถ “Victory” ตามนิตยสารต่างประเทศมาระยะเวลาหนึ่ง จึงเกิดความสนใจและได้เดินทางไปทดลองขี่ด้วยตนเองที่สหรัฐอเมริกา โดยใช้เวลาขับขี่และคลุกคลีอยู่กับรถนาน 5 วัน จนมั่นใจในสมรรถนะตัวรถ จึงได้ตัดสินใจนำรถแบรนด์นี้เข้ามาแนะนำให้นักขับขี่ชาวไทยได้รู้จักและเปิดโอกาสให้ได้เป็นเจ้าของรถที่น่าสนใจอีกแบรนด์หนึ่งของโลก โดยบริษัทเริ่มนำเข้า “Victory” มาจำหน่ายเมื่อต้นปี 2013 ที่ผ่านมา แบ่งเป็น 4 ตระกูล คือ Cruisers, Baggers, Touring และ Ness Signature จำนวน 11 รุ่นจากทั้งหมด 14 รุ่นที่มีขายอยู่ในต่างประเทศ แต่ละรุ่นจะมีการแบ่งย่อยในเรื่องของการตกแต่งและสีของตัวรถ ส่วนรุ่นที่ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่ายคือ Boardwalk ราคา 1,315,000 บาท Jackpot ราคา 1,385,000 บาท และ Cross Roads Classic ราคา 1,365,000 บาท หากลูกค้าต้องการรุ่นที่สนใจสามารถสั่งรุ่นที่ต้องการได้ โดยสามารถรอรับรถภายในระยะเวลา 3 เดือน”
สำหรับ “Victory” ตระกูล Cruisers ประกอบด้วย
- Vegas 8-Ball ราคา 1,015,000 บาท
- High Ball ราคา 1,135,000 บาท
- Hammer 8-Ball ราคา 1,145,000 บาท
- Judge ราคา 1,195,000 บาท
- Boardwalk ราคา 1,315,000 บาท
- Jackpot ราคา 1,385,000 บาท
ตระกูล Baggers ประกอบด้วย
- Cross Roads Classic ราคา 1,365,000 บาท
- Hard Ball ราคา 1,375,000 บาท
- Cross Country ราคา 1,425,000 บาท
ตระกูล Touring ประกอบด้วย
- Cross Country Tour ราคา 1,550,000 บาท
- Vision Tour ราคา 1,645,000 บาท
ตระกูล Ness Signature ประกอบด้วย
- Cross Country Zach Ness ราคา 1,895,000 บาท
- Cross Country Tour Cory Ness ราคา 1,995,000 บาท
- Vision Tour Arlen Ness ราคา 1,955,000 บาท
โดย “Victory” เป็นรถที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้ทั่วโลกอย่างกว้างขวางว่า เป็นรถบิ๊กไบค์ที่มีสมรรถนะโดดเด่น ตามสโลแกนของรถคือ “Ride One, You'll Own One” ซึ่งนักขับขี่ที่ได้ลองขับ “Victory” ต่างเอ่ยปากบอกกันเป็นเสียงเดียวว่า เป็นรถในแบบ Cruiser ที่ขับขี่ได้เยี่ยมยอด
“รุ่นที่คาดว่าจะทำยอดขายได้ดีคือ Judge ซึ่งเป็นตัวแทนของรถตระกูล Cruisers เป็นรถไซซ์เล็กถูกออกแบบมาตามคอนเซ็ปต์ของ American Muscle Car ท่าการขี่เหมาะกับสรีระของคนไทย แต่ยังคงความบึกบึนของตัวรถในสไตล์อเมริกัน อีกรุ่นคือ Vision Tour จะเป็นตัวแทนของรถในตระกูล Touring เหมาะสำหรับใช้เดินทางท่องเที่ยวในระยะทางไกล จากท่าการขี่ที่ถูกออกแบบมาให้ขับขี่สบายเป็นระยะเวลานาน พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกและช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ทำให้ Vision Tour เป็นรถที่โดดเด่นที่สุดในตลาดรถทัวริ่งในปัจจุบัน โดยตั้งเป้าขายปีแรกประมาณ 60 คัน แบ่งเป็น Cruisers ประมาณ 30 คัน และตัวใหญ่อย่างตระกูล Baggers และ Touring อีกประมาณ 30 คัน”
นายณัฐพล ไตรณัฐี กล่าวถึงการแข่งขันในตลาดของรถระดับเดียวกันว่า “Victory” เป็นรถที่มีความชัดเจนในด้านสมรรถนะและท่าการขับขี่ ซึ่งรถบิ๊กไบค์ในประเภทเดียวกันที่เป็นคู่แข่งโดยตรงนั้นมีน้อยมาก อย่างไรก็ตามแนวโน้มของรถขนาดใหญ่ในตลาดเมืองไทยทีปรับราคาสูงขึ้นจากโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ โดยรถที่มีขนาดความจุปริมาตรกระบอกสูบ 1,000 ซี.ซี. จัดเก็บ 20% จัดเก็บภาษีมากกว่าเดิม 7-17% โดยคาดว่าภาพรวมตลาดรถบิ๊กไบค์เมืองไทยขนาดความจุ 1,000 ซี.ซี.ขึ้นไป ในปีนี้จะมียอดจำหน่ายประมาณ 1,000 คัน
นายณัฐบูร ไตรณัฐี กล่าวถึงความพร้อมของโชว์รูมและบริการหลังขายของ “Victory” ว่า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่บริษัทใส่ใจเป็นพิเศษ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้า โดยโชว์รูมและศูนย์บริการ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) ตั้งอยู่ปากซอยพัฒนาการ 63 พร้อมให้บริการตามมาตรฐานแบบครบวงจร ทั้งส่วนของโชว์รูม, ศูนย์บริการ, อุปกรณ์ตกแต่ง, ชิ้นส่วนอะไหล่และยังใช้เป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ของเหล่านักขับขี่อีกด้วย ขณะที่ทีมช่างทุกคนได้รับการฝึกอบรมตามหลักสูตรมาตรฐานจาก “Victory USA” ทำให้มั่นใจในการดูแลและซ่อมบำรุงรถของลูกค้าอย่างสูงสุด
“ปัจจุบันมีนักธุรกิจให้ความสนใจและขอสมัครเป็นดีลเลอร์กับ วิคตอรี่ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ประเทศไทย) โดยบริษัทได้วางแผนการขยายศูนย์บริการและโชว์รูมให้ครอบคลุมในหัวเมืองใหญ่ทั้ง 4 ภาคของประเทศภายในระยะเวลา 2 ปี พร้อมทั้งจัดให้มีการอบรมทีมช่างของแต่ละภูมิภาค เพื่อสร้างความมั่นใจต่อกลุ่มลูกค้าที่ซื้อ “Victory” และนำไปใช้งานในจังหวัดต่างๆ หรือในระหว่างการเดินทาง”