กรุงเทพ--4 ก.พ.--คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย)
บริษัท คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด วางแผนครองตลาดการบริการด้านการเงิน การสื่อสาร และระบบอีคอมเมิร์ซ ด้วยระบบคอมพิวเตอร์แบบทำงานต่อเนื่อง โดยใช้ความโดดเด่นของระบบการทำงานแบบ 24 x 7 x 365 ความเป็นระบบเปิดและโซลูชั่นสำเร็จรูปพร้อมสำหรับการใช้งานในกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย
ปัจจุบัน ระบบคอมพิวเตอร์แบบทำงานต่อเนื่องของแทนเด็มเป็นเทคโนโลยีหนึ่งของกลุ่ม Enterprise Computing ของบริษัท คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) ในโอกาสนี้ ม.ล. ชัยวัฒน์ ชยางกูร กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ ได้เปิดเผยว่า ในด้านของเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์การทำงานต่อเนื่องนั้น คอมแพคมี
* NonStop Himalaya S Series ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีคุณสมบัติ Fault Tolerance ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ ผนวกกับเทคโนโลยีทางด้านเซิร์ฟเวอร์เน็ท ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ ฮิมาลายา S700 ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานแบบคู่ขนานระดับเอ็นทรีเลเวล ฮิมาลายา S7000 ระดับกลางและฮิมาลายา S70000 ซึ่งเป็นขนาดใหญ่
* และ Integrity ยูนิกซ์เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ในตระกูลของยูนิกซ์ที่มีคุณสมบัติทางด้าน Fault Tolerance และ Integrity XC ซึ่งสามารถเชื่อมต่อโปรไลแอนท์เซิร์ฟเวอร์ได้ถึง 8 ตัว โดยใช้เซิร์ฟเวอร์เน็ทเทคโนโลยี และนอนสต็อปคลัสเตอร์สำหรับ SCO Unix
นอกจากนั้น คอมแพคยังได้พัฒนาโซลูชั่นครบถ้วนสำหรับธุรกิจด้านการเงิน การธนาคารและการสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็น โซลูชั่นสำหรับการจ่ายเงินแบบเรียลไทม์ (real-time integrated payment) ระบบข้อมูลลูกค้า (customer information systems) และระบบการทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ต (business-critical Internet transaction processing)
"โซลูชั่น Real-time integrated payment ใช้สำหรับระบบการจ่ายโอนเงินในแบบเรียลโทม์ พร้อมโปรแกรมสำหรับการบริหารความเสี่ยงต่างๆ ในขณะที่ Customer information systems ประสานข้อมูลที่อยู่ในดาต้าแวร์เฮ้าส์เข้ากับระบบการแสวงหาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า เพื่อใช้ในการตัดสินใจ ทำให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด ส่วน Business-critical Internet transaction processing ช่วยให้การทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ตมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น" ม.ล. ชัยวัฒน์กล่าว
ม.ล. ชัยวัฒน์กล่าวชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในปีนี้ ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของแทนเด็มจะยังใช้ความโดดเด่นในด้านความเป็นระบบบเปิดและการทำงานแบบออนไลน์เป็นจุดขายที่สำคัญ แต่เพิ่มประสิทธิภาพในด้าน
* วางตลาดเซิร์ฟเวอร์ฮิมาลายารุ่นเอสซีรี่ส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์แบบนันสต็อปที่มีการทำงานแบบคู่ขนาน
* ทำคลัสเตอริ่งกับระบบที่มีพื้นฐานบนวินโดวส์เอ็นทีกับเซิร์ฟเวอร์การสื่อสารแบบไฮแบนด์วิธ
* วางตลาดโซลูชั่นระบบการทำธุรกรรมบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งนับเป็นโซลูชั่นแรกในอุตสาหกรรมไอที
* ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอพพลิเคชั่นชั้นนำของโลก
ม.ล.ชัยวัฒน์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ในแผนการทำตลาดระบบคอมพิวเตอร์แบบทำงานต่อเนื่องของแทนเด็มนั้น บริษัท คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จะร่วมมือกับช่องทางการจัดจำหน่ายในการนำโซลูชั่นที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Internet transaction processing, Real-time customer information system, NonStop software, Business-critical software และเทคโนโลยี ServerNet เพื่อใช้เจาะตลาดการเงินและการสื่อสาร โดยนำไปใช้สนับสนุนการทำงานส่วนต่างๆ ของธุรกิจทั้งสองประเภท อาทิ ระบบการจ่ายเงินแบบเรียลไทม์ ระบบเอทีเอ็มยุคใหม่ และระบบ point-of-sales (POS) ระบบข้อมูลเพื่อช่วยผู้บริหารในการตัดสินใจและบริหารความเสี่ยง ระบบรายงานและธุรกรรมในตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ
ในประเทศไทย ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานต่อเนื่องของแทนเด็มเป็นที่ไว้วางใจอย่างกว้างขวาง ธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐบาลกว่าร้อยละ 90 ใช้ระบบเอทีเอ็มสวิทชิ่งของแทนเด็ม ธนาคารของรัฐบาลสามแห่งใช้ระบบของแทนเด็มเป็นโฮสท์ในการทำรีเทลแบ้งค์กิ้ง นอกจากนี้หน่วยงานด้านการสื่อสารของรัฐ และบริษัทผู้ให้บริการด้านการสื่อสารรายใหญ่ต่างใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบทำงานต่อเนื่องของแทนเด็ม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่หัสญา หาสิตะพันธุ์ คอมแพค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์: 654 0788 ต่อ 3375 โทรสาร: 654 0759 E-mail: hassayah@compaq.com-- จบ--