กรุงเทพฯ--26 เม.ย.--นิโอ ทาร์เก็ต
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าไทย กล่าวถึงภารกิจหลักที่จะพัฒนาภาคเอกชน ด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ ชี้นำเศรษฐกิจ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น สร้างสรรค์สังคมไทย ก้าวไกลสู่สากล โดยพบว่ากลุ่มผู้ประกอบการหลักในไทยเป็นธุรกิจครอบครัวกว่า 80% ซึ่งความท้าทายที่สำคัญคือการส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน จึงได้มอบหมายให้ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันทางการศึกษาที่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจครอบครัว ทำหน้าที่ในการผลักดันองค์ความรู้ที่สำคัญสู่สังคมไทย อันเป็นที่มาของรายการโทรทัศน์รายการแรกของโลก Family Business Open Up ที่ได้รับการสนับสนุนหลักจากทางธนาคารกสิกรไทย และ บมจ. ไทยเบฟเวอร์เรจ ตลอดจนผู้ประกอบการขนาดใหญ่อื่นๆ ที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับธุรกิจครอบครัวไทย เพื่อการพัฒนาและก้าวสู่การเติบโตในเวทีภูมิภาคต่อไป
รศ.ดร. เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเสริมว่า รายการโทรทัศน์นี้จะเป็นรายการแรกของโลกที่ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมมือกับผู้ผลิตรายการมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์รูปแบบรายการที่เปิดเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว ผ่านปมความเห็นต่างระหว่างคนในครอบครัว เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการบริหารจัดการทางธุรกิจพร้อมๆไปกับการส่งต่อ และถ่ายทอดการเติบโตของธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่น โดยมหาวิทยาลัยต้องการตอกย้ำความโดดเด่นในการส่งมอบสาระเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวไทยผ่านศูนย์ธุรกิจครอบครัว ที่เป็นศูนย์การเรียนรู้เฉพาะทาง ที่ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ
นายกฤษฎา ล่ำซำ รองประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะของผู้สนับสนุนหลักของรายการ เปิดเผยว่าธนาคารกสิกรไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของธุรกิจครอบครัวมาโดยตลอด โดยทางธนาคารได้มีการจัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องสำหรับกลุ่มลูกค้าที่เป็นธุรกิจครอบครัว อาทิเช่น หลักสูตรอบรมการบริหารธุรกิจครอบครัวไทยอย่างมืออาชีพมากว่า 5 ปี ปัจจุบันมีมาถึงรุ่นที่ 10 ที่มุ่งเน้นการเชื่อมต่อความคิดความเข้าใจจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้การสืบต่อธุรกิจนั้นราบรื่น นำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ธนาคารยังได้มีการก่อตั้ง KFam Club เพื่อเป็นการรวมกลุ่มกันของลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นธุรกิจครอบครัวของธนาคารกสิกรไทย โดยเน้นการแบ่งปันความรู้ พร้อมเสริมความสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายระหว่างกันเพื่อการต่อยอดธุรกิจด้วยกิจกรรมที่หลากหลายทั้งเชิงวิชาการ การจัดทริปธุรกิจ กิจกรรมสันทนาการสานสัมพันธ์ และกิจกรรมด้านสังคม โดยมีสมาชิกทั้งหมดกว่า 200 ครอบครัวในปัจจุบัน
ทั้งนี้ นายกฤษฎา ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยอ่อนไหวที่สำคัญที่มักเป็นอุปสรรคต่อการบริหารธุรกิจครอบครัวคือ การส่งต่อธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น ที่ความต้องการในการให้และการรับไม่ตรงกัน หรือความไม่พร้อมของการส่งต่อธุรกิจ และการบริหารจัดการภายในครอบครัว ซึ่งมีความอ่อนไหวทางอารมณ์มากกว่าธุรกิจที่ไม่ใช่ครอบครัว รวมทั้งการจัดการเรื่องการเงินภายในครอบครัว รวมถึง ภาษี มรดก และอำนาจในการบริหารงาน ที่ทำให้ความเข้าใจระหว่างคนสองรุ่นเป็นเรื่องที่สำคัญ และมักจะไม่มีใครเอ่ยถึง
ดังนั้นในการผลิตรายการ Family Business Open Up! เปิดความคิด ธุรกิจสองรุ่น โดยมีบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ผลิตรายการ จึงนับเป็นก้าวสำคัญของการเสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจครอบครัวไทย เพราะเป็นการนำองค์ความรู้อย่างกระเทาะเปลือกให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในทุกขนาดของธุรกิจ ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย จนถึงผู้ประกอบการธุรกิจ SME และธุรกิจขนาดใหญ่ที่ทุกคนสามารถเชื่อมต่อความนึกคิดและความเข้าใจในปมปัญหาเพื่อต่อยอดการเรียนรู้ได้ โดยทางนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ไทยเบฟเวอร์เรจ ที่เป็นอีกหนึ่งตัวแทนของธุรกิจครอบครัวใหญ่ของไทยซึ่งได้ให้การสนับสนุนการผลิตรายการนี้ ย้ำถึงการเปิดความคิดธุรกิจของคนสองรุ่นผ่านการเรียนรู้ด้วยสื่อทางโทรทัศน์ ว่าจะทำให้สังคมสามารถประยุกต์และต่อยอดให้เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองได้ ทั้งนี้รายการจะออกอากาศทุกวันอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 เวลา 17.00-17.50 น. เริ่มออกอากาศเทปแรก วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคมนี้