กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--ไอบีเอ็ม
ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) เปิดเผยรายงานของการ์ทเนอร์ ซึ่งระบุว่าไอบีเอ็มรั้งตำแหน่งผู้นำตลาดโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่นและมิดเดิลแวร์อีกครั้ง ด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดโดยรวมสูงสุดจากรายได้รวมทั่วโลกปี 2555 และนับเป็นปีที่ 12 ติดต่อกันที่ไอบีเอ็มครองตำแหน่งผู้นำในตลาดนี้
รายงาน “ส่วนแบ่งตลาด: ตลาดซอฟต์แวร์ทั่วโลกทั้งหมดในปี 2555” (Market Share: All Software Markets, Worldwide, 2012) ของการ์ทเนอร์ อิงค์ เมื่อ 29 มีนาคม 2556 ระบุว่า ไอบีเอ็มเป็นผู้นำซอฟต์แวร์ด้วยส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 30.9 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าคู่แข่งอันดับสองเกือบสองเท่า การ์ทเนอร์ยังระบุว่า ตลาดซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่นและมิดเดิลแวร์ทั่วโลกเติบโตในอัตรา 5 เปอร์เซ็นต์จนแตะระดับ 20,000 ล้านดอลลาร์
"เราเชื่อว่ารายงานฉบับล่าสุดของการ์ทเนอร์ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่ต่อเนื่องของไอบีเอ็มในตลาดซอฟต์แวร์ รวมถึงการเปลี่ยนย้ายไปสู่ธุรกิจที่มีมูลค่าสูงกว่า ซึ่งสอดรับกับโครงการริเริ่มทางด้านธุรกิจในระยะยาวของลูกค้า" สตีฟ มิลส์ รองประธานอาวุโสและผู้บริหารกลุ่มธุรกิจซอฟต์แวร์และระบบของไอบีเอ็ม กล่าว "ข่าวในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์นี้ รวมถึงความสำเร็จของไอบีเอ็มในการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเพื่อพัฒนาสู่ยุคสมัยใหม่ของเทคโนโลยีการประมวลผล"
นอกเหนือจากการเป็นผู้นำตลาดโดยรวมแล้ว รายงานของการ์ทเนอร์ยังชี้ว่า ธุรกิจของไอบีเอ็มเติบโตในตลาดสำคัญๆ ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่า เช่น Smarter Planet, บิ๊กดาต้า (Big Data), ระบบรักษาความปลอดภัย (Security), โมบิลิตี้ (Mobility) และคลาวด์ (Cloud)
ตัวอย่างเช่น ไอบีเอ็มครองตำแหน่งผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดซอฟต์แวร์ Business Process Management Suite (BPMS) ด้วยส่วนแบ่งตลาด 28.6 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าคู่แข่งอันดับสองเกือบสามเท่า ซอฟต์แวร์ BPMS ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถพัฒนาและปรับใช้กระบวนการที่รองรับการผนวกรวมระบบงานธุรกิจเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน พร้อมทั้งปรับปรุงข้อมูลให้มีความคล่องตัวและรองรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ไอบีเอ็มยังคงครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดอื่นๆ ที่มีความสำคัญและกำลังเติบโต เช่น การจัดการระบบสารสนเทศและเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย, เครื่องมือการผนวกรวมข้อมูล, การจัดการคอนเทนต์ในองค์กร, การจัดการสินทรัพย์ในองค์กร และการจัดการการปฏิบัติงานด้านไอที
จากรายงานดังกล่าว ธุรกิจของไอบีเอ็มมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดสำคัญๆ สำหรับระบบ Smarter Commerce ของไอบีเอ็ม รวมถึงอี-คอมเมิร์ซ และระบบการตลาดอัตโนมัติ ทั้งนี้ IBM Smarter Commerce มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรต่างๆ ในการปฏิรูปการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้ใช้เทคโนโลยีดิจิตอล และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด หรือ CMO
ไอบีเอ็มเชื่อว่าการที่บริษัทฯ ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดโครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่นและมิดเดิลแวร์ (AIM) อย่างต่อเนื่องเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ธุรกิจและกำไรของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ธุรกิจซอฟต์แวร์ของไอบีเอ็มมีรายได้เพิ่มขึ้นสองเท่าและมีกำไรเพิ่มขึ้นสามเท่า
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานแอพพลิเคชั่นและมิดเดิลแวร์ของไอบีเอ็มได้ที่: www.ibm.com/software