กทม.ปรับลดงบฯ ปี 41 จำนวน 2,640 ล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะการเงินของประเทศ

ข่าวทั่วไป Wednesday September 24, 1997 13:57 —ThaiPR.net

กรุงเทพ--24 ก.ย.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
วันที่ 23 ก.ย. 40 เวลา 15.00 น. ดร.พิจิตต รัตตกุล ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเป็นปัญหาทั้งกับรัฐบาลส่วนกลาง และรัฐบาลท้องถิ่นในปัจจุบัน ทำให้กทม. ต้องปรับลดงบประมาณปี 2541 เพื่อให้อนาคตทางด้านการเงินการคลังของกทม. สอดคล้องกับแผนการเงิน การคลังของประเทศโดยงบฯ ปี 41 ซึ่งตั้งไว้ จำนวน 26,400.- ล้านบาท นั้น ถึงแม้จะได้รับการอนุมัติจากสภากทม. แล้วก็ตาม จะมีการปรับลดงบฯ ดังกล่าวอีก จำนวน 2,640.- ล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรก (ประมาณ 10% ของงบฯ รายจ่ายประจำปี 41) ทั้งนี้งบฯ จำนวนดังกล่าว ส่วนใหญ่จะปรับลดจากงบฯ ลงทุน ส่วนการปรับลดงบฯ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจะต้องพิจารณาอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อข้าราชการและลูกจ้างกทม. โดยงบฯ ในด้านนี้จะไปปรับลดในเรื่องค่าซื้อวัสดุแทน รวมทั้งการประหยัดในแต่ละสำนักงานเพื่อลดการสูญเสียทั้งเรื่องวัสดุ และพลังงานด้วย
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อไปว่า สำหรับงบฯ ที่มีการปรับลดมาก คือ งบฯ ลงทุนนั้น มีหลายประเภทที่ปรับลด ได้แก่ ถนนตัดใหม่ที่ยังห่างไกลจากผังเมือง อุโมงค์ลอดทางแยกบางแห่งที่ยังไม่มีการเซ็นสัญญา โครงการสวนน้ำ หรือพื้นที่กักเก็บน้ำ (แก้มลิง) บางส่วน งบฯ ซื้อที่ดินสร้างเขื่อนต่าง ๆ ซึ่งไม่ใช่เขื่อนที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา งบฯ ด้านคอมพิวเตอร์ และยานพาหนะ เป็นต้น อย่างไรก็ดีเนื่องจากกทม. สามารถเตรียมการเรื่องงบฯ รายรับ ให้สอดคล้องกับงบฯ รายจ่ายได้
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า ในปี 41 งานด้านที่ส่งผลกระทบกับประชาชนโดยตรงจะไม่มีการปรับลด แต่จะเพิ่มความสำคัญให้อีก ซึ่งได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด การจ้างงาน การทำสวนบาทวิถี ต้นไม้ ระบบสวัสดิการเด็กนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม. การสนับสนุนการขยายศูนย์บริการสาธารณสุข 60 แห่ง การให้บริการแจกจ่ายยารักษาโรค การแก้ไขปัญหายาเสพติด ค่าตอบแทนสวัสดิการข้าราชการและลูกจ้างกทม. การเพิ่มศูนย์ฝึกอาชีพ ศูนย์เด็กอ่อน เป็นต้น ทั้งนี้จะเห็นว่ารายการที่ไม่ปรับลดดังกล่าวเป็นรายการที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ของประชาชน ซึ่งกทม. ในฐานะหน่วยงานท้องถิ่นจะต้องดำเนินการสนับสนุนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ กทม. จะมีการสร้างมาตรการในการเพิ่มรายได้ โดยการขยายพื้นที่การจัดทำแผนที่ภาษีเพื่อเพิ่มฐานะภาษีอันพึงได้ โดยเฉพาะภาษีโรงเรือนและภาษีป้าย จากเดิมที่ดำเนินการในเขตคลองเตย จะมีการขยายเพิ่มอีก 5 เขต คือ เขตปทุมวัน ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ บางรัก และพญาไท--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ