กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,454 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,467 เหรียญ/ออนซ์(22.30 น.) ค่าเงินบาทปิด 29.43 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,200 บาท กับ 20,300บาท และกลับมาปิดที่ 20,200 บาท กับ 20,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,242 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,281 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 4.8 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.7% GFM13ปิด 20,600 บาท และ GFQ13ปิด 20,670 บาท GF10M13ปิดที่ 20,600บาท GF10Q13ปิดที่ 20,680 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 21.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,467.6 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver เพิ่มขึ้น 48.7 เซนต์ ปิดที่ 23.83 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,069.21 ตัน (ขายออก 6.02 ตัน ) น้ำมัน NYMEX เพิ่มขึ้น 2.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 93.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 130.63 จุด ปิดที่ 14,831.58 จุด
ข่าวที่สำคัญ
-ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 20 เหรียญหลังจากอีซีบีประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.5% ซึ่งก็เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้แต่ต้นแล้ว
-การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำถูกจำกัดโดยกองทุน SPDR ที่ยังคงขายออกมาติดต่อกันเป็นวันที่ 18 เมื่อวานขายอีก 6.02 ตัน หรือ 0.56% คงเหลือการถือครองทองคำที่ ระดับ 1,069.22 ตัน
-นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า อีซีบีอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงให้อยู่ในระดับติดลบหากเศรษฐกิจในยุโรปอยู่ในสภาพสมควรให้กระทำ
-สกุลเงินดอลลาร์มีการรีบาวน์ขึ้นอย่างมากเมื่อวานนี้ หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยของอีซีบีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
-ในขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ $1.3041 จากระดับสูงสุดเมื่อวานที่ $1.3213
-นอกจากการประชุมอีซีบีเมื่อวานนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐสองตัวออกมาดีขึ้นทั้งคู่ โดย Jobless Claims ลดลง 18,000 ตำแหน่ง ลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี และยอดขาดดุลการค้าลดลง 11% เหลือการขาดดุลอยู่ที่ 3.88 หมื่นล้านดอลลาร์
-หลังการประชุมเฟด ประชุมอีซีบีผ่านไป ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ในวันนี้ หากตัวเลขออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์จะเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ
-การรายงาน Non-farm payrolls ในวันนี้คาดการณ์เพิ่มขึ้นจากเดิม 58,000 ตำแหน่ง (เดือนเมษายนจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่ง ในขณะที่เดือนมีนาคมมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 88,000 ตำแหน่ง)
-CME Group รายงานว่า ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขายทองคำเฉลี่ยอยู่ที่ 532,000 คู่สัญญาต่อวัน เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม และเพิ่มขึ้น 62% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปีที่แล้ว
-โรงกษาปณ์สหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ว่า ปริมาณความต้องการเหรียญทองคำ เมเปิ้ล ลีฟ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 123% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว และซิลเวอร์เพิ่มขึ้น 88%
-รายการวิทยุ "วอยซ์ ออฟ ไชน่า" ของจีนรายงานว่า เหล่าแม่บ้านชาวจีนอาจเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นมาจากการปรับตัวลดลงล่าสุด โดยในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มแม่บ้านใช้จ่ายเงินราว 1 แสนล้านหยวน (1.6 หมื่นล้านดอลลาร์) ในการเข้าซื้อทองคำจำนวน 300 ตัน ส่งผลให้ทองคำสามารถทรงตัวบริเวณ 1,468 เหรียญได้
-กลุ่มเดียเลอร์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ผู้บริโภคทองคำในจีนยังคงมองหาการเข้าทำกำไรหลังจากราคามีการรีบาวน์ ในขณะที่ปริมาณความต้องการทองคำจากผู้บริโภคอื่นๆ ในเอเชียยังคงมีการรักษาระดับพรีเมี่ยมไว้ที่ระดับสูง
-อีเลียตต์ เมเนจเม้นท์ คอร์ป บริษัท เฮดจ์ ฟันด์ มูลค่า 2.18 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ร่วมกับ จอห์น พอลสัน กล่าวว่า ทองคำยังคงเป็นสิ่งที่กักเก็บมูลค่าได้ดีที่สุดในช่วงที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่ีแน่นอน แม้ว่าบริษัทจะขาดทุนไปกับทองคำในช่วงที่ผ่านมาก็ตาม
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -43.6B ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -38.8B
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 342K ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 324K
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 88K ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 146K
- Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.6% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 7.6%
- ISM Non-Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 54.4 ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ 54.1
- Factory Orders m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.0% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -2.8%
ทิศทางราคาทองคำ
ภาพรวมราคาทองคำยังทรงตัวอยู่ได้เหนือระดับ 1,450 เหรียญ หลังจากที่มีแรงเทขายและร่วงลงไปในช่วงวันแรงงาน ในวันนี้ราคาทองคำกลับยืนอยู่ได้แม้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯสองตัวออกมาดีขึ้นก็ตาม โดยที่ Jobless Claims ลดลง 18,000 ตำแหน่งและ Trade Balance ออกมาดีขึ้นเช่นกันคือยอดขาดดุลการค้าน้อยลงมาอยู่ที่ระดับ -3.88 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่ราคาทองคำสามารถทรงตัวและยืนอยู่เหนือระดับ 1,450 เหรียญได้ โดยที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปทำจุดสูงสุดด้านบนที่ระดับ 1,473 เหรียญและปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,467.6 เหรียญ ในขณะที่อีซีบีลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 0.5% ตามที่คาดการณ์
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค - คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,450 — 1,480 เหรียญ โดยที่ยังได้ผลบวกจากค่าเงินบาทที่เริ่มกลับมาอ่อนค่าลงอย่างมาก เงินบาทในเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเมื่อวานอีก 14 สตางค์ จากความกังวลในความตึงเครียดของ ธปท. กับกระทรวงการคลัง ในขณะที่ทองคำมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,450 เหรียญ แนวต้านที่ระดับ 1,480 เหรียญ แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ในการขายก่อนเมื่อราคาดีดตัวขึ้นมาบริเวณแนวต้าน และซื้อปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวลดลง
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
เป็นกลยุทธ์การลงทุนในกรอบแคบ 1,460 — 1,480 เหรียญโดยประมาณ
- นักลงทุนถือ Long Position
ยังแนะนำให้ขายปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้น
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้ซื้อปิดทำกำไรตามสภาพการแกว่งตัวของตลาด ยังย้ำการลงทุนในลักษณะระยะสั้นไม่ควรเกินกว่า 3 -5 วันเท่านั้น
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,750 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,620 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,820 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง