กรุงเทพฯ--8 พ.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,466 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,446 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.60 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,500บาท กับ 20,600บาท และกลับมาปิดที่ 20,500 บาท กับ 20,600 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 1,764 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,930 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่ 4 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 2 % แบบ 10 บาท ลดลง 1 % GFM13 ปิด 20,440 บาท และ GFQ13 ปิด 20,530 บาท GF10M13 ปิด 20,440 บาท GF10Q13 ปิด 20,530 บาท
สัญญา Comex ปิดลดลง 19.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,448.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver ลดลง 14.9 เซนต์ ปิดที่ 23.806 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,057.79 ตัน (ขายออก 4.51 ตัน ) น้ำมัน NYMEX ลดลง 54 เซนต์ ปิดที่ 95.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิด เพิ่มขึ้น 87.31 จุด ปิดที่ 15,056.20 จุด
ข่าวที่สำคัญ
ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงเปิดตลาดสหรัฐค่ำวานนี้ จากการตอบรับการเทขายของกองทุน ETF ที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง
SPDR ขายทองต่อเนื่องเป็นวันที่ 21 อีก 4.51 ตัน หรือ 0.4% สู่ระดับ 1,057.79 ตัน ทำจุดต่ำสุดในรอบ 4 ปี นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2009
ในเดือนเมษายน กองทุนพอลสันขาดทุน 27% จากกองทุน ETF และในปีนี้ขาดทุนไป 47%
มีรายงานจากบลูมเบิร์กว่า การที่ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อวานนี้เนื่องมาจากการหารือของนายเจอโรน ดิจเซลโบลเอ็ม รัฐมนตรีคลังเนเธอร์แลนด์ เกี่ยวกับโครงการสหภาพธนาคารของยุโรปที่ส่งสัญญาณว่าผู้นำต่างๆ ของยุโรปจะดำเนินการต่อสู่กับวิกฤตการคลังในภูมิภาค ส่งผลให้ลดความต้องการในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยลงไป
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ไซปรัสจะรับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโรจากการร่วมกันระหว่างอียูและไอเอ็มเอฟ โดยการช่วยเหลือได้รับอนุมัติโดยผู้กำหนดกฎหมายเมื่อวานนี้
สำนักข่าวดี เวลท์ ของเยอรมนีรายงานว่า อีซีบีกำลังมองหาทางในการเข้าซื้อ bad loan จากยุโรปทางตอนใต้เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันในภาคธนาคารประเทศที่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม เมื่อสำนักข่าวรอยเตอร์สติดต่อไปยังอีซีบีกลับไม่ได้รับการตอบรับแสดงความเห็นในทันที
ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 2.75% แต่ปัจจัยดังกล่าวเพียงแต่ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น ไม่ได้สนับสนุนราคาทองคำแต่อย่างใด
ในเดือนมีนาคม การนำเข้าทองคำจากฮ่องกงไปยังจีนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 223,519 กิโลกรัม (223.52 ตัน) จากเดิม 97,106 กิโลกรัม
ในช่วงวันที่ 16 เม.ย. - 3 พ.ค. ปริมาณการซื้อขาย Spot gold contract ในตลาดเซี่ยงไฮ้ทำจุดสูงสุดที่ระดับ 323 ตัน โดยมีปริมาณสูงสุดในวันที่ 22 เม.ย. ที่ระดับ 43.272 ตัน
สมาคมค้าทองคำของจีนกล่าววานนี้ว่า ปริมาณการบริโภคทองคำของจีนเพิ่มขึ้น 26% สู่ระดับ 320.54 ตันในช่วงไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นายบิล กรอส จากพิมโก้ ได้ทวิตเตอร์เมื่อบ่ายวานนี้ถึงการยอมรับบทบาทของนโยบายของเฟดที่กำลังเป็นส่วนสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาดหุ้น
ดัชนีดาวโจนส์มีการซื้อขายเหนือระดับ 15,000 จุดเป็นครั้งแรก ในขณะที่ดัชนี S&P 500 ยังคงทะยานขึ้นเหนือระดับ 1,600 จุดทำจุดสูงสุดใหม่ 4 วันติดต่อกัน
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน — ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม
- FOMC Member Stein Speaks เวลา 20.30 น.
- Crude Oil Inventories เวลา 22.30 น. ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 6.7M คาดการณ์ลดลงอยู่ที่ 2.1M
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำยังคงมีความผันผวนต่อเนื่องในทิศทางขาลง หลังจากที่ยังมีแรงขายต่อเนื่องในตลาด COMEX ผ่านทาง SPDR โดยที่เมื่อวานนี้ราคาปรับตัวลดลงในช่วงปลายตลาดลอนดอน ตอนต้นตลาด COMEX ราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,460 เหรียญและยังไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,440 เหรียญ ก่อนที่จะดีดขึ้นมาปิตลาด COMEX ที่ระดับ 1,448.8 เหรียญ ในขณะที่ SPDR ยังขายทองคำต่อเนื่องอีก 4.51 ตัน ลดการถือครองลงมาเหลือเพียง 1,057.79 ตัน
วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค — ในสภาพทางเทคนิคราคาทองคำยังคงเป็นแนวโน้มขาลงทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง โดยที่แนวรับจะอยู่ที่ระดับ 1,430 เหรียญ และแนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,465 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวในทิศทางแนวโน้มขาลง และแนะนำให้นักลงทุนเก็งกำไรในแนวโน้มขาลงมากกว่า โดยเน้นการเปิด Short Position บริเวณแนวต้าน
กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้
ยังเน้นกลยุทธ์ทำ Short Position แล้วค่อยซื้อกลับในกรอบ 1,465 — 1,440 เหรียญหรือกรอบทองคำแท่งไทยประมาณ 20,450 บาท/บาททองคำ เป็นแนวต้านด้านบน และแนวรับด้านล่างอยู่ที่ระดับ 20,100 บาท/บาททองคำ
- นักลงทุนถือ Long Position
แนะนำให้ปิดและขายทำกำไรเป็นช่วงๆ ไม่แนะนำให้เปิด Long Position มากนัก
- นักลงทุนที่ถือ Short Position
แนะนำให้เปิด Short Position บริเวณแนวต้าน และปิดทำกำไรโดยเข้าซื้อเป็นช่วงๆ โดยถือระยะสั้น 2 — 3 วันเท่านั้น
Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,340 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,540 บาท
Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,480 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,680 บาท
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง