กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล
นายเจิดพันธุ์ นิธยายน ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า “กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ตราสารหนี้ 3ปี รับรายเดือน 3Y1M1” (CIMB-PRINCIPAL MI3Y1) ที่สิ้นสุดไอพีโอ ณ วันที่ 7 พฤษภาคม 2556นั้น มียอดซื้อถึง 1,427 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าโครงการที่จดไว้ 1,250 ล้านบาทหรือต้องทำการจัดสรรเพิ่มจาก Green shoe โดยกองทุนนี้ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศและตราสารหนี้ภาคเอกชนคุณภาพดีอายุเฉลี่ยประมาณ 3ปี ผลตอบแทนประมาณการที่ 3.825% ต่อปี (เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำก่อนเสียภาษีที่ 4.50 % ต่อปี ) การที่ผู้ลงทุนให้การต้อนรับอย่างดีนั้น น่าจะมาจากการที่กองทุนลงทุนในตราสารหนี้ชั้นดีที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยของตลาดปัจจุบันค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกันผลตอบแทนของตราสารหนี้ระยะสั้นทั้งในและต่างประเทศปรับตัวลดลง รวมถึงดอกเบี้ยยังคงทรงตัวหรือแนวโน้มอาจปรับลง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาหาทางเลือกการลงทุนที่ยาวขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงถ้าดอกเบี้ยปรับลดลงในอนาคต
นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ. ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยมีความเป็นไปได้น้อย โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับไม่สูง การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบางอยู่ และแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง การที่กองทุนกองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล ตราสารหนี้ 3ปี รับรายเดือน 3Y1M1 ขายดีมากนั้นเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกว่านักลงทุนเริ่มหันมามองการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้น สอดคล้องกับมุมมองของบลจ.ที่เห็นว่าดอกเบี้ยจะยังทรงตัวและมีโอกาสน้อยที่จะปรับตัวขึ้นในช่วงเวลาอันใกล้ การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุปานกลางถึงยาวเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกับภาวะตลาดในปัจจุบัน โดยบลจ.แนะนำให้ผู้ลงทุนที่พลาดโอกาสจากกองทุนตราสารหนี้3ปี ให้ลงทุนในกองทุนเปิด CIMB-PRINCIPAL iFIXED ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางที่ลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั้งในประเทศและต่างประเทศโดยผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 4.31 ต่อปี * (ผลการดำเนินงานกองทุน ณ วันที่ 26 เมษายน 2556) ขนาดกองทุนปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 2,600 ล้านบาท
“จากการศึกษาของบริษัทจัดการ พบว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางอายุ 1 - 3 ปีสามารถให้ผลตอบแทนสะสมนับแต่ปี 2007 ถึงปี 2012 สูงถึง 28.3% หรือเฉลี่ยประมาณ 4.6% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อของไทยที่ 18.40% ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น (Money Market) และกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุ 1 ปี (Term Fund) ให้ผลตอบแทนสะสม 16.8% และ 18.1% ตามลำดับซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อสะสมตลอดช่วงดังกล่าว ข้อดีอีกประการของกอง CIMB-PRINCIPAL iFIXED คือ มีการกระจายการลงทุน (Diversification) ที่มากกว่ากองทุนตราสารหนี้แบบมีกำหนดอายุซึ่งมักจะลงทุนในตราสารหนี้แต่ละบริษัทประมาณ 20 — 25% จึงทำให้กองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม (CIMB-PRINCIPAL iFIXED) เหมาะจะใช้เป็นสินทรัพย์หลักในการจัดพอร์ตลงทุน (Core Investment Portfolio) โดยนักลงทุนสามารถลงทุนในกอง iFIXED ได้ 40 — 60% ของพอร์ตการลงทุนถือว่าเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม” นายเจษฎากล่าวเสริม
CIMB-PRINCIPAL iFIXED กำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท และผู้ลงทุนสามารถซื้อ — ขายได้ทุกวันและเวลาทำการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล 0 2686 9595
www.cimb-principal.com หรือ CIMB Thai Care Center 0 2626 7777 กด 0 www.cimbthai.com
*ผลตอบแทนของกองทุนไอเอ็มบี-พรินซิเพิล คอร์ ฟิกซ์ อินคัม-ชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Type R)
**ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานของกองทุน จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานที่กำหนดโดยสมาคม
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน