กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ฟิทช์เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (AEONTS) เป็นบวก จากแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ พร้อมทั้งประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) และอันดับเครดิตในประเทศระยะสั้น (National Short-Term Rating) ของบริษัทที่ระดับ ‘BBB+(tha)’ และที่ระดับ ‘F2(tha)’ ตามลำดับ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกสะท้อนถึงการที่ AEONTS สามารถรับมือและมีความยืดหยุ่นต่อภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจในหลายๆ ครั้งได้ โดยบริษัทสามารถรักษาระดับลูกหนี้ค้างชำระในระดับที่จัดการได้ และสามารถรักษาระดับเงินทุนให้อยู่ในระดับที่พอเพียงในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี 2551/2552 และในช่วงอุทกภัยใหญ่ในประเทศปี 2554 แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวกสะท้อนถึงมุมมองของฟิทช์ว่า AEONTS น่าจะสามารถดำเนินการตามกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้ได้สำเร็จและสามารถเพิ่มอัตรากำไรได้อย่างมีนัยสำคัญในระยะปานกลาง ซึ่งรวมถึงการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ในขณะเดียวกัน ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนเงินทุนของ AEONTS น่าจะปรับตัวดีขึ้นจากผลกำไรในอนาคต
อันดับเครดิตของ AEONTS สะท้อนถึงการที่บริษัทมีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง มีระบบการปล่อยสินเชื่อและการติดตามหนี้ที่ดี รวมถึงอัตรากำไรและคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทอยู่ในระดับที่เหมาะสม และการมีสภาพคล่องและระดับเงินทุนที่พอเพียง
AEONTS ยังคงใช้ประโยชน์จากสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง การมีระบบการปล่อยสินเชื่อและการติดตามหนี้ที่ดีในการขยายสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคและการขยายตลาดในต่างจังหวัด ทั้งนี้การขยายตัวของสินเชื่อที่คาดว่าจะดี ยังมีปัจจัยสนับสนุนมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีของประเทศและฐานลูกค้าที่ขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ของประชากร อย่างไรก็ตาม ฟิทช์มองว่าภาวะการแข่งขันในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภครวมถึงการแข่งขันจากธนาคารพาณิชย์จะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง
AEONTS มีผลประกอบการที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งในปีงบการเงิน 2556 (สิ้นสุดกุมภาพันธ์ 2556) เนื่องจากมีการเติบโตของสินเชื่อที่ดีและไม่มีการตั้งสำรองหนี้สูญมากเป็นพิเศษ ฟิทช์คาดว่าผลประกอบการของบริษัทจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีงบการเงิน 2557 จากการขยายตัวของสินเชื่อ ระดับการตั้งสำรองหนี้สูญที่จัดการได้และการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม
ฟิทช์ยังคาดว่าผลประกอบการของ AEONTS น่าจะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์ใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงแผนที่จะใช้e-commerce ในการเพิ่มความสะดวกและการเข้าถึงบริการ รวมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน นอกจากนี้ AEONTS ยังดำเนินรอยตามบริษัทแม่ AEON Group ที่ญี่ปุ่นในการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม โดยการเข้าซื้อกิจการบริษัทที่ประกอบธุรกิจนายหน้าขายประกันและธุรกิจติดตามหนี้ในกลางปี 2555 ในขณะที่การที่บริษัทขยายธุรกิจไปในประเทศเพื่อนบ้านอาจทำให้เกิดความเสี่ยงทางด้านการปฏิบัติงานและการเงิน แต่จากการที่ AEONTS มีประสบการณ์ที่ยาวนานในการทำธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การขยายธุรกิจดังกล่าวน่าจะเป็นผลดีต่อกำไรของบริษัทแม้ว่าจะอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักในระยะสั้น
ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีการฟื้นตัวของผลประกอบการอย่างแข็งแกร่งในปีงบการเงิน 2556 อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อสินทรัพย์สูงขึ้นเพียงเล็กน้อยเป็น 14.2% ณ สิ้นปีงบการเงิน 2556 เนื่องจาก AEONTS มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์ที่สูงและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มอัตราส่วนเงินทุนได้ในอนาคต และจะสามารถรักษาระดับอัตราส่วนเงินทุนให้เพียงพอที่จะรองรับผลกระทบจากความผันผวนของสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจได้
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การปรับตัวดีขึ้นอย่างยั่งยืนของความสามารถในการทำกำไร คุณภาพสินทรัพย์ หรืออัตราส่วนเงินทุนที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและยั่งยืนอาจส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น ทั้งนี้ ปัจจัยบวกดังกล่าวอาจเกิดจากการที่บริษัทสามารถดำเนินงานตามกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้ได้สำเร็จโดยไม่เพิ่มความเสี่ยง ซึ่งรวมถึงความสามารถในการรองรับผลกระทบจากความผันผวนของสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจได้
การที่บริษัทไม่สามารถดำเนินงานตามกลยุทธ์การเติบโตที่วางไว้ได้สำเร็จ หรือไม่สามารถทำให้อัตราส่วนเงินทุนแข็งแกร่งขึ้นได้ภายในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า อาจส่งผลให้มีการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตกลับมาเป็นมีเสถียรภาพ ในขณะที่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากคุณภาพสินทรัพย์ในอนาคตที่ปรับตัวอ่อนแอลง หรือระดับเงินกองทุนและสภาพคล่องของบริษัทที่ลดลง (ซึ่งรวมถึงการลดลงของการสนับสนุนทางการเงินที่ได้จากบริษัทแม่) อาจส่งผลกระทบทางลบต่ออันดับเครดิตได้